ต่างชาติถล่มขาย ไม่ได้แปลว่า “ไม่ชอบหุ้นไทย” ตลท. ชี้ ต้องดูเรื่องอื่นด้วย

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ต่างชาติถล่มขาย ไม่ได้แปลว่า “ไม่ชอบหุ้นไทย” ตลท. ชี้ ต้องดูเรื่องอื่นด้วย

Date Time: 5 ก.ค. 2567 09:10 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย มักมีการกล่าวกันว่า “ตลาดหุ้นไทยไม่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ” ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้ว การวัดความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ ต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ด้วย

Latest


ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เผยแพร่  SET Note ฉบับที่ 7/2567 เรื่อง “การถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทย” โดยระบุว่า ช่วงระยะเวลาใดก็ตามที่นักลงทุนต่างประเทศเป็นผู้ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย มักมีการกล่าวกันว่า “นักลงทุนต่างประเทศออกจากตลาดหุ้นไทย” หรือ “ตลาดหุ้นไทยไม่น่าสนใจในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ”


ซึ่งจากข้อเท็จจริงแล้ว การวัดความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยในสายตาของนักลงทุนต่างประเทศ ไม่สามารถชี้ชัดด้วย “มูลค่าการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศ” เพียงปัจจัยเดียว เพราะมูลค่าและสัดส่วนการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเป็นผลจากหลายปัจจัย จึงจำเป็นต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ด้วย


“ขายสุทธิ” ไม่ได้สะท้อนว่า “ไม่สนใจ”


สุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ตลท. ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 15 ปี และได้เผยแพร่บทความเพื่อให้ความรู้แก่นักลงทุนเป็นประจำทุกปี


อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายสุทธิและมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ ดังนั้น จึงขอสรุปข้อมูลเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทย ดังนี้


มูลค่าการซื้อขายสุทธิเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถสะท้อนถึงมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อจำนวนหุ้นที่นักลงทุนถือครอง อาทิ การเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ มูลค่าการซื้อขายสุทธิ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ผู้ถือหุ้นของนักลงทุนกลยุทธ์ การเข้าจดทะเบียนและการเพิกถอนการเป็นบริษัทจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงราคาพาร์ เป็นต้น ดังนั้น จึงไม่อาจด่วนสรุปว่า การขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศหมายถึงการถอนตัวจากตลาดหุ้นไทย


และมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงส่วนใหญ่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ที่ถือครองเป็นสำคัญ เนื่องจากผลศึกษาที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ประมาณ 70%-80% ของมูลค่าการถือครองหุ้นเป็นการถือครองหุ้นที่เป็นองค์ประกอบของ SET50 Index


ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยข้อมูลภาพรวมการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศปีละครั้ง เนื่องจากใช้ข้อมูลการปิดสมุดทะเบียนเพื่อประชุมประจำปีผู้ถือหุ้นที่บริษัทจดทะเบียนจะต้องมีการปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อปีละหนึ่งครั้ง ซึ่งข้อมูลการปิดสมุดนี้จะทำให้เห็นภาพรวมของการถือครองหุ้น และสามารถจำแนกเป็นรายสัญชาติได้


ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ พัฒนาโปรแกรมอัตโนมัติในการคำนวณมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศตั้งแต่ปี 2564 โดยใช้จากข้อมูล Big Data จากระบบต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์ ทั้ง 1) ข้อมูลการปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อในฐานข้อมูลนายทะเบียน 2) ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นเนื่องจากกิจกรรม Corporate Action ต่างๆ รวมทั้งงานเครดิตหุ้น และ 3) ข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามสถิติการถือครองหุ้นได้รวดเร็วขึ้น 


ข้อมูลการขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศไม่สามารถสะท้อนถึงมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นไทยได้อย่างครบถ้วนตามที่กล่าวมาแล้ว ในรายงานฉบับต่อไปจะเป็นการรายงานถึงความสัมพันธ์ระหว่างการซื้อขายหลักทรัพย์และมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศโดยใช้ข้อมูลสถิติแสดงให้เห็นข้อเท็จจริง


สัดส่วนการถือครองหุ้นไทย…มาจากหลายปัจจัย


อย่างไรก็ตาม มูลค่าและสัดส่วนการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเป็นผลจากหลายปัจจัย จึงจำเป็นต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ด้วย จึงขอยกตัวอย่างพอสังเขป ดังนี้


1. การเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์ (Price Effects) เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากประมาณ 70% ของมูลค่าการถือครองหุ้นฯ เป็นหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET50 ดังนั้น มูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศจึงเคลื่อนไหวไปในทิศทางและขนาดใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของ SET50 Index


2. การซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศ (net trading position: net sold / net bought) หรือมูลค่าการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศ สะท้อนเพียงการซื้อหรือขายหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นในช่วงเวลาหนึ่งๆ (flow) ไม่สามารถอธิบายสถานะความมั่งคั่ง (wealth) หรือมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ (portfolio) ในตลาดหุ้นไทยได้


เนื่องจากการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า ประมาณ 80% ของมูลค่าการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศเป็นการถือ Foreign shares เป็นการลงทุนระยะยาว นักลงทุนต่างประเทศแทบจะไม่นำหุ้นกลุ่มนี้มาซื้อขาย ยกเว้นการซื้อขายเพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่เป็นเจ้าของกิจการ สังเกตได้จากแต่ละปีแทบจะไม่มีการซื้อขาย Foreign shares


ดังนั้น การซื้อขายสุทธิที่เราเห็นเป็นกระแสเงินจากการทำกำไรในระยะกลางและระยะสั้นของนักลงทุนต่างประเทศ ขณะที่ความมั่งคั่งหรือมูลค่าถือครองหุ้นของนักลงทุนแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากการขายสุทธิของนักลงทุนต่างประเทศ


3. การเข้าจดทะเบียนใหม่ในตลาดหุ้นไทย (new listing companies) เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีโอกาสทำให้มูลค่าการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ในตลาดหุ้นไทยจากการที่บริษัทจดทะเบียนนั้นๆ มีธุรกิจที่น่าสนใจ มีขนาดใหญ่พอ มีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้น หรือตามเงื่อนไขของนักลงทุนต่างประเทศกำหนด อาจส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนต่างประเทศต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคารวมทั้งตลาดเพิ่มขึ้นได้


ในทางตรงข้าม หากบริษัทจดทะเบียนไทยไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ นักลงทุนต่างประเทศอาจไม่ซื้อขายหุ้นนั้นๆ เพื่อถือครองหุ้นก็ส่งผลให้สัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนต่างประเทศต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมทั้งตลาดลดลง (decrease in percentage of foreign holding value) และในทางกลับกัน 


4. การเพิกถอนบริษัทจดทะเบียนออกจากตลาด (delisted companies) เมื่อบริษัทจดทะเบียนนั้นๆ เพิกถอนออกจากตลาด มูลค่าหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนนั้น จะไม่ปรากฏในระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลให้มูลค่าการถือครองหุ้นโดยรวมของนักลงทุนต่างประเทศลดลง


ดังนั้น หากบริษัทจดทะเบียนมีสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนต่างประเทศในสัดส่วนที่สูงและเพิกถอนออกจากตลาด จะส่งผลให้มูลค่าการถือครองหุ้นโดยรวมลดลง และสัดส่วนมูลค่าการถือครองหุ้นโดยนักลงทุน


5. กิจกรรม Corporate Action / การใช้สิทธิ์ต่างๆ ส่งผลต่อจำนวนหุ้นจดทะเบียน อาทิ การเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียน การเปลี่ยนแปลงราคาพาร์ การให้สิทธิการซื้อขายหุ้น การแปลงสภาพจากใบสำคัญแสดงสิทธิเป็นหุ้นสามัญ การให้หุ้นปันผล เป็นต้น ดังนั้น ย่อมส่งผลกระทบต่อจำนวนหุ้นในการถือครอง มูลค่าการถือครอง และสัดส่วนการถือครองหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศด้วย

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ