เป็นที่น่าจับตาสำหรับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น CPN ที่เรียกได้ว่าช่วงที่ผ่านมานั้น เปิดห้างสรรพสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง จำนวน 3 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล Westville, เซ็นทรัลนครสวรรค์ และเซ็นทรัลนครปฐม โดยนักวิเคราะห์ฯ มองว่า จะช่วยหนุนกำไรให้มีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคต
ขณะที่ แผนลงทุน 5 ปี มูลค่ากว่า 1.21 แสนล้านบาท เพื่อการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสด้านค้าปลีกนั้น หากดูจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่อยู่เกิน 2 หมื่นล้านบาทต่อปี ก็สะท้อนว่า CPN สามารถลงทุนได้อย่างสบายในระยะยาว
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับเพิ่มประมาณการกําไรขึ้นราว 5-6% ในปี 2567-2568 หลักๆ จากรายได้ที่ไม่ใช่ค่าเช่าและบริการสูงขึ้น ขณะที่กําไรในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้น 4.5% จากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท หลังจากการเปิดห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัล Westville ในไตรมาส 4/66 อีกทั้ง การเปิดเซ็นทรัลนครสวรรค์ และเซ็นทรัลนครปฐม ในไตรมาส 1/67 จะช่วยหนุนกําไรในไตรมาส 2/67
ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เราคาดการเติบโตกําไร อาจมาจากยอดโอนรวมของโครงการคอนโดมิเนียมใหม่สร้างเสร็จ 3 แห่ง สําหรับปี 2568 การเปิดโครงการ Dusit Central Park ต่างๆ จะเป็นปัจจัยหลักขับเคลื่อนการเติบโต
ขณะที่ แผนลงทุน 5 ปี มูลค่ารวม 1.21 แสนล้านบาท ภายใต้แนวคิดในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสด้านค้าปลีก จากยอดลงทุนรวมราว 7.4 หมื่นล้านบาทจะถูกนําไปลงทุนในโครงการมิกซ์ยูสใหม่ โดย 2.3 หมื่นล้านบาท จะใช้เพื่อการเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์โดยใช้ประโยชน์พื้นที่ว่างให้เช่าเต็มที่ และรองรับความหลากหลายของผู้เช่า (tenant mix) เพื่อจะมีอัตราค่าเช่าสูงขึ้น
ส่วนที่เหลืออีก 2.4 หมื่นล้านบาท จะนำไปลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ โดยส่วนใหญ่อยู่ใกล้กับ CPN และห้างสรรพสินค้า ของกลุ่มเซ็นทรัล รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ เพื่อเติมเต็มระบบนิเวศให้สมบูรณ์
ในขณะที่มีกระแสเงินสดเข้าจากการดําเนินงานอยู่เกิน 2 หมื่นล้านบาทต่อปี และมี net gearing ที่ 0.7 เท่า จึงมองว่า CPN สามารถพร้อมลงทุนได้อย่างสบายในระยะยาว โดยยังคงคําแนะนํา “ซื้อ” แต่ที่ราคาเป้าหมาย 74 บาท
ด้านบทวิเคราะห์ฯ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ยังคงชอบ CPN ในฐานะผู้นำตลาดที่สามารถเติบโตได้ดีทั้งรายได้และกำไร จากอัตราดอกเบี้ยถึงจุดสูงสุดแล้ว และอาจปรับตัวลดลงเร็วๆ นี้ CPN จึงมีความน่าสนใจนอกเหนือจากมูลค่าหุ้นในปัจจุบัน
โดยมองโมเดลธุรกิจของ CPN ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง เนื่องจากประมาณ 40-50% ของรายได้ค่าเช่า มาจากค่าเช่าคงที่ และส่วนแบ่งจากยอดขายของผู้เช่า ดังนั้น สัดส่วนใหญ่ของรายได้คือ "รายได้ที่ถือว่ามั่นคง" พร้อมอัปไซด์จากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พื้นที่เช่าสุทธิที่เพิ่มขึ้น และการบริหารต้นทุน
นอกจากนี้เป้าหมายของ CPN คือการขายสินทรัพย์ให้กับ CPNREIT ดังนั้น จึงคาดว่าการประเมินมูลค่าสินทรัพย์จะดีขึ้นภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ
อย่างไรก็ตาม ตลาดมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับความเสี่ยงของพื้นที่สำนักงานและศูนย์การค้าที่ล้นตลาดในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ แต่เชื่อว่าธุรกิจที่หลากหลายของ CPN จะช่วยรองรับความเสี่ยงนี้ได้ ดังนั้น แม้ว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นระหว่างผู้ประกอบการศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานในใจกลางกรุงเทพฯ โดยคาดว่า CPN จะได้รับผลกระทบเพียงจำกัดเท่านั้น นอกจากนี้ที่ตั้งของโครงการจะยังคงน่าสนใจสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้เช่า โดยเฉพาะเซ็นทรัลเวิลด์และ Offices@Central World
สำหรับแนวโน้มการเติบโตของกำไรในครึ่งหลังของปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตน้อยกว่าครึ่งแรกของปี 2567 เนื่องจากผลกระทบจากฐานที่สูงในครึ่งหลังของปี 2566 แต่คาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 ครอบคลุมธุรกิจหลักทั้งหมดของ CPN คาดกำไรเติบโต 13% จากปีก่อน หนุนโดยรายได้ค่าเช่าจากศูนย์การค้า โดยแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 84 บาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้