สงครามราคารถยนต์ กดดัน ธนาคาร คุมปล่อยสินเชื่อ จับตา 5 แบงก์อาจกระทบหนัก

อุตสาหกรรมรถยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงจากการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้เกิดการลดลงราคาสู้กันระหว่างค่ายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์สันดาป ซึ่งกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบ คือ กลุ่มเจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้เพื่อซื้อรถยนต์ และกลุ่มสินเชื่อรถยนต์มือ 2 

บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นลบต่อสถานการณ์ข้างต้น เพราะการแข่งขันด้านราคามีโอกาสส่งผลต่อการฟื้นตัวของราคารถยนต์มือสองช่วงที่เหลือของปี แม้สัดส่วนยอดขาย BEV ในไทยงวด 4 เดือนแรกของปี 2567 ยังไม่มากอยู่ที่ราว 2.3 หมื่นคัน หรือราว 11% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศ แต่การปรับลดราคา ICE ในบางค่ายรถยนต์ เพื่อแข่งขันกับ BEV

คาดสร้างแรงกดดันต่อราคารถยนต์มือสองทั้ง BEV และ ICE อีกทั้งประเมินภาพดังกล่าวไม่สร้างแรงจูงใจให้ ธ.พ.กลับมาปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ รถยนต์ในเร็วๆ นี้โดยพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของ ธ.พ. ซึ่งมี LTV ราว 75-80% สูง กว่าสินเชื่อจำนำทะเบียนที่มี LTV ประมาณ 30-50% มีแนวโน้มได้รับแรงกดดัน จากทิศทางการปรับลงของราคารถมือสองมากกว่า ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) KKP, บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  TISCO, ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) TTB, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) BAY และ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) SCB นอกจากนี้การแข่งขันด้านราคา อาจกระทบต่อเนื่องถึงตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มี Gross profit margin ขายไม่สูงเพียง 3-9%

ทำให้ฝ่ายวิจัยคงมุมมองสินเชื่อ Floorplan เป็นอีกกลุ่มที่มีความเสี่ยงในปีนี้ สำหรับการลงทุนกลุ่มธนาคาร คงน้ำหนักเท่ากับตลาด จากความน่าสนใจเชิงปัจจัยพื้นฐาน ทั้ง PBV ไม่แพง และคาดเงินปันผลเกิน 5% ต่อปี โดยมอง ธนาคารพาณิชย์ใหญ่ ที่มีพอร์ตสินเชื่อธุรกิจสูง คาดการณ์ได้ประโยชน์จากการเบิกจ่ายงบประมาณ ภาครัฐต่อเนื่องมากกว่าสินเชื่อรายย่อย จึงเลือกธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK (Outperform) ตามด้วยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) BBL (Outperform) ส่วน TTB (Outperform) มองว่าการมีสิทธิประโยชน์ทาง ภาษี ช่วยลดความเสี่ยงต่อประมาณการ พร้อมให้ เงินปันผล ราว 7% ต่อปี

ในขณะที่ ธ.พ.ที่เหลือเรียงตามความชอบดังนี้ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB, บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) TISCO  , บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) SCB, ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) KKP, เท่าตลาด NON Bank : ราคาหุ้นกลุ่มจำนำทะเบียนรถและเช่าซื้อรถบรรทุก ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาปรับลงเฉลี่ย 10% เทียบ SET ปรับฐาน 5% หลังสถานการณ์ ดอกเบี้ยนโยบายในไทยอาจไม่ได้ลงในปีนี้ ทำให้ PER กลุ่มจำนำทะเบียนรถลงมา ซื้อขายเฉลี่ย 12.6 เท่า สะท้อนความเสี่ยงพอสมควร เลือก บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) MTC จากการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ทำได้ดีต่อเนื่อง ตามด้วย บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) TIDLOR และสุดท้ายบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SAWAD