ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์วันนี้ ปรับตัวขึ้นเกือบทั้งกลุ่ม หลังกระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อไทย เดือน พ.ค. 2567 สูงขึ้น 1.54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านเงินเฟ้อพื้นฐาน สูงขึ้น 0.39% เร่งตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือน เม.ย. 2567 ที่สูงขึ้น 0.37% ทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังว่า การพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หนุนให้มีแรงซื้อหุ้นกลับเข้ามา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ฯ ให้คำแนะนำ ชะลอการลงทุน ในช่วงนี้ เนื่องจากหุ้นธนาคารพาณิชย์ เป็นหุ้นกลุ่มที่อิงกับกระแสเงินทุนต่างชาติเป็นหลัก และความไม่ชัดเจนทางการเมือง เป็นปัจจัยกดดันที่ทำให้ Fund Flow ยังไม่ไหลเข้า
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “Thairath Money” ว่า ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวขึ้นวันนี้ ได้แรงหนุนจากกระทรวงพาณิชย์ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ กนง. น่าจะยังไม่เกิดขึ้นเร็ว
ประเด็นดังกล่าว ทำให้หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง จากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นมีการปรับฐานลงมา จากความกังวลประเด็นการเมืองในประเทศ ทำให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในเดือน มิ.ย.-ส.ค. อาจจะถอยกลับลงมาอีกรอบหนึ่ง และปรับตัวขึ้นอีกทีในช่วงปลายปีนี้ จากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ทำให้มองว่าในช่วงนี้เงินเฟ้อจะยังไม่เร่งตัวขึ้นเร็ว โดยคงมุมมองในกรอบ 0-1%
หากอิงจากทิศทางเงินเฟ้อในประเทศ มองว่ายังไม่ได้เอื้อให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยน่าจะทรงตัวที่ระดับ 2.5% อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามปัจจัยภายนอก หากธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย อาจเป็นตัวแปรที่ทำให้ กนง.พิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น
นอกจากนี้ ณัฐพล ให้มุมมองว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ มองว่าเป็นหุ้นกลุ่มใหญ่ที่เชื่อมโยงกับกระแสเงินทุนต่างชาติ เพราะฉะนั้น อยากให้รอความชัดเจนประเด็นทางการเมืองในเดือน มิ.ย. ก่อน จึงจะเริ่มน่าสนใจในการเข้าลงทุน
“ในระยะสั้น ถ้าเกิด Fund Flow ไม่เข้า ยังไงกลุ่มแบงก์ในเดือนมิถุนายน ยังไม่น่าจะไปไหน เพราะฉะนั้น เป็นลักษณะของการชะลอการลงทุนในกลุ่มนี้ไปก่อน และรอความชัดเจนเรื่องของการเมือง” ณัฐพล กล่าว
ทั้งนี้ จะเริ่มเข้าสู่ช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/67 ในเดือนหน้า และคาดว่างบจะออกมาดี โดยแนะนำเข้าเก็งกำไรในช่วงนั้น เพื่อคาดหวังเงินปันผลครึ่งปี โดยยังเลือกหุ้น บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น KTB เป็น Top pick เนื่องจาก นับตั้งแต่ต้นปี 2567 สินเชื่อของ SCB ยังมีการขยายตัวได้ 0.3% ขณะที่ KTB ขยายตัวได้ 1.7%
นอกจากนี้ คาดว่า SCB จะมีการจ่ายปันผลทั้งปีที่ระดับ 8.9% ส่วน KTB อยู่ที่ 6% ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับธนาคารใหญ่อื่นในกลุ่ม ที่มีปันผลเฉลี่ยอยู่ราว 5%
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้