บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PTTGC รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/67 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิรวม 606 ล้านบาท (คิดเป็นผลขาดทุน -0.13 บาท/หุ้น) เทียบกับไตรมาส 1/66 ที่มีกำไรสุทธิ 82 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทฯ มีผลกำไรจากการดำเนินงานปกติ จำนวน 703 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ที่บริษัทฯ มีขาดทุนจากการดำเนินการปกติ จำนวน 1,949 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ รับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติ/ควบคุมไม่ได้ ได้แก่ กำไรจากสต๊อกน้ำมันและรายการการปรับมูลค่าสินค้าคงเหลือให้เท่ากับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ (Stock Gain Net NRV) รวม 359 ล้านบาท กำไรจากตราสารอนุพันธ์เพื่อประกันความเสี่ยง 107 ล้านบาท ขาดทุนทางบัญชีจากอัตราแลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์ทางการเงินรวมเป็น 1,577 ล้านบาท
และบริษัทฯ รับรู้ส่วนขาดทุนจากเงินลงทุนในไตรมาสนี้จำนวน 323 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนในธุรกิจปิโตรเคมีส่วนใหญ่ยังคงไม่ฟื้นตัว ส่งผลให้ในไตรมาส 1/67 บริษัทฯ รายงานผลขาดทุนสุทธิรวม 606 ล้านบาท (คิดเป็นผลขาดทุน -0.13 บาท/หุ้น)
ในไตรมาส 1/67 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 155,187 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 4% จากไตรมาส 4/66 จากราคาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นลดลงเป็นหลักและปริมาณการขายของโรงกลั่นที่ลดลงจากผลิตภัณฑ์ดีเซลที่ปรับลดลงตามอุปสงค์ที่ลดลงตามฤดูกาลหลังจากฤดูหนาวเป็นหลัก แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาตลาดในกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น ธุรกิจฟีนอล ธุรกิจโพลิเมอร์เป็นหลัก
สอดคล้องกับคาดการณ์ของ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/67 ธุรกิจหลักดีขึ้น แต่พลิกเป็นขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน พร้อมคาดว่าแนวโน้มผลการดําเนินงานหลักไตรมาส 2/67 ยังไม่เด่น แม้เชื่อว่าอัตรากําไรธุรกิจอะโรมาติกส์ยังอยู่ระดับดี เพราะมีปัจจัยกดดันจากการอ่อนตัวของค่าการกลั่นตามสเปรดน้ำมันดีเซลในไตรมาส 2/67 เหลือ 15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เทียบกับ 23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1/67 และปริมาณวัตถุดิบก๊าซอีเทน (Ethane) ยังไม่เพิ่มขึ้นเพราะเป็นช่วงซ่อมบำรุงของโรงแยกก๊าซ GSP แห่งที่ 5 จํานวน 15 วัน
อย่างไรก็ดี คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 6.7 พันล้านบาท และคงคำแนะนำซื้อเก็งกำไร (Trading) ที่ราคาเหมาะสม 40.00 บาท เชิงกลยุทธ์มองว่ายังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/67 ไม่เด่น พลิกเป็นขาดทุนสวนทางคู่แข่งที่ส่วนใหญ่ฟื้นตัว
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้