กบข. แจงไม่ได้ลงทุนใน URBNPF เปิดพอร์ต 4.60 แสนล้าน ถือหุ้นไทยไม่ถึง 5% หุ้นดังเพียบ

   ทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเตือนผู้ลงทุนให้ใช้ความระมัดระวังก่อนตัดสินใจลงทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เออร์บานา (URBNPF) เนื่องจากกองทุนอาจมีเหตุถูกบอกเลิกสัญญาสิทธิการเช่า และเลิกกองทุนรวมนั้น กบข. ขอแจ้งให้ทราบว่า กบข. ไม่มีการลงทุนในกองทุนรวม URBNPF และไม่ได้รับผลกระทบหากกองทุนรวมดังกล่าวมีมูลค่าเท่ากับศูนย์

     โดย กบข. มีการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย ประมาณ 4,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.97% ของเงินกองทุนส่วนสมาชิก (ข้อมูล ณ 29 ก.พ. 67) ซึ่ง กบข. ได้ติดตามสถานการณ์การลงทุนอย่างใกล้ชิด มีการทบทวนสินทรัพย์ลงทุนอยู่เสมอ และเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) หน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ที่มีมูลค่าตลาด มากกว่า 5,000 ล้านบาท โดยกองทุนจะต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่มีกรรมสิทธิ์ (Freehold) หรือมีสิทธิการเช่า (Leasehold) อายุคงเหลือไม่น้อยกว่า 15 ปี และมีรายได้ไม่กระจุกตัวกับผู้เช่าเพียงรายเดียว

     ทั้งนี้ กบข. มีเป้าหมายในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่สมาชิก และลงทุนภายใต้กรอบการลงทุนที่กำหนด จึงขอให้สมาชิกคลายความกังวล

เปิด 10 หุ้น กบข.ถือมากสุด 

อย่างไรก็ตาม สำหรับพอร์ตการลงทุนของ กบข. ณ สิ้นปี 2566 มีมูลค่า 460.575 โดยสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยอยู่ที่ 4.32% ของพอร์ต

การถือครองหุ้น มากที่สุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 

1. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ถือครองหุ้นสัดส่วน 8.71%
2. บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ ADVANC ถือครองหุ้นสัดส่วน 8.03%
3. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ถือครองหุ้นสัดส่วน 5.49%
4. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ถือครองหุ้นสัดส่วน 5.38%
5. บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ถือครองหุ้นสัดส่วน 5.00%
6. บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS ถือครองหุ้นสัดส่วน 4.48%
7. บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ถือครองหุ้นสัดส่วน 3.85%
8. ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ถือครองหุ้นสัดส่วน 3.74%
9. บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ถือครองหุ้นสัดส่วน 2.99%
10. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ถือครองหุ้นสัดส่วน 2.62%

ส่วนการถือครองหลักทรัพย์ของแผนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ไทย ได้แก่ 

1. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ FTREIT ถือครองหุ้นสัดส่วน 16.33%
2. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท WHART ถือครองหุ้นสัดส่วน 16.06%
3. กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท LPF ถือครองหุ้นสัดส่วน 15.51%
4. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท CPNREIT ถือครองหุ้นสัดส่วน 13.20%
5. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท IMPACT ถือครองหุ้นสัดส่วน 10.44%