ถึงเวลาผลัดใบ ของ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) MASTER ที่ล่าสุดมีการประกาศ แต่งตั้ง คุณดาว ลภัสรดา เลิศภานุโรจ ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แทน หมอเส นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ที่ขึ้นไปดำรงตำแหน่งเป็น Group CEO MASTER โดย คุณดาว นับเป็นหนึ่งในขุนพลคู่ใจของหมอเส ในการปลุกปั้น MASTER ในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ และมีความเชี่ยวชาญในการจัดการด้านระบบการเงิน และการเตรียมความพร้อมในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
คุณดาว ลภัสรดา ชี้ว่า ดำรงตำแหน่ง CEO ครั้งนี้ มีพันธกิจสำคัญที่จะเข้ามาปรับระบบการเงิน ของบริษัทที่ MASTER เข้าไปลงทุน และปรับโครงสร้างเพื่อให้เกิดซินเนอร์จี้ร่วมกันทั้งกลุ่ม โดยเปิดเผยว่า ภาพการเติบโตของ MASTER ในอนาคตจะมุ่งสู่การเป็น กลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทางมากขึ้น โดยจะเน้นการขยายความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่เข้าไปถือหุ้นเพื่อสร้างการเติบโตรวมกัน นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะย้ายเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้
“ภาพการเติบโตของ MASTER หลังจากนี้เราจะเน้นการเป็นโรงพยาบาลเฉพาะทาง และการเข้าไปช่วยปรับโครงสร้างของบริษัทที่เข้าไปถือหุ้น เพื่อเป็นฐานสำคัญให้บริษัทสามารถเติบโตได้ก้าวกระโดด”
ทั้งนี้ปัจจุบัน MASTER เข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งสิ้น 15 บริษัท ใน 3 กลุ่มธุรกิจ ทั้ง Cross Borer กลุ่ม Cross Selling และ Cross Synergy ที่ทางบริษัทเข้าถือหุ้นอยู่ที่ 36-40% แม้บางบริษัทจะมีสินค้าและบริการที่ใกล้เคียงกันก็ตาม โดยบริษัทเชื่อว่า ไม่ว่าคนไข้จะใช้บริการกับใครสุดท้ายบริษัทจะได้ประโยชน์และช่วยครองมาร์เก็ตแชร์ในตลาดศัลยกรรมและแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น
ทั้งนี้ในการเข้าไปถือหุ้นในแต่ละบริษัท MASTER จะเข้าไปช่วยปรับระบบการเงินของแต่ละบริษัท และเข้าไปช่วยเชื่อมโยงบริการในกลุ่ม โดยการเข้าไปช่วยปรับระบบด้านการเงิน และการวางกลยุทธ์ของพาร์ตเนอร์ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นปีที่ 2 จะเริ่มเห็นการออกดอกออกผลของธุรกิจที่เราเข้าไปลงทุน โดย MASTER คาดว่า บริษัทที่เข้าลงทุนนั้นจะมีประมาณ 20% ที่สามารถต่อยอดเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ในอนาคต โดยแพลนในปีนี้ ยังมีแผนจะเข้าลงทุนในบริษัทอื่นๆ เพื่อเติมเต็มพอร์ตลงทุนด้วย โดยภาพรวมของ MASTER ในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 20%
อย่างไรก็ตาม หลังจากบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครอบ 1 ปีนั้นบริษัทมีแผนจะขยับเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET ภายในปีนี้ โดยเหตุผลสำคัญมาจากความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่สนใจจะเข้ามาถือหุ้น แต่ติดนโยบายการลงทุนทำให้ไม่สามารถเข้าลงทุนได้ ซึ่งการเข้าตลาดหลักทรัพย์จะช่วยปลดล็อกปัญหานี้