บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น GULF แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายของประเทศ ในการเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี พ.ศ.2593 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี พ.ศ.2608 คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จึงได้มีมติเห็นชอบหลักการการรับซื้อไฟฟ้าและอัตรารับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561-2580 ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 (PDP2018 Rev. 1)
เนื่องจากการบริหารจัดการขยะอุตสาหกรรมโดยการนำขยะที่ไม่เป็นของเสียอันตราย และมีค่าความร้อนมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงแข็ง (Solid Recovered Fuel: SRF) เพื่อนำไปใช้ในการผลิตไฟฟ้า (waste-to-energy) เป็นการสร้างมูลค่าของเสียจากโรงงาน อีกทั้งยังช่วยลดปัญหาการลักลอบทิ้งขยะ ลดพื้นที่ฝังกลบ ลดการเผาทำลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน และยังเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการฝังกลบ และลดปริมาณของเสียจากกระบวนการผลิต ซึ่งทำให้เกิดการหมุนเวียนทรัพยากรตามนโยบายของภาครัฐ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio Circular Green Economy: BCG)
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญตามนโยบายภาครัฐดังกล่าวจึงได้ร่วมมือกับบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) (BWG) ซึ่งมีประสบการณ์มามากกว่า 20 ปี ในด้านการจัดการคัดแยกและฝังกลบขยะอุตสาหกรรม รวมถึงการแปรรูปขยะอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นของเสียอันตรายเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้า (SRF) และบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) (ETC) ซึ่งเป็นผู้มีความชำนาญในการผลิตไฟฟ้าจากขยอุตสาหกรรมและขยะชุมชนที่มีมาตรฐานสูง
ทั้งนี้ ทั้งสามฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม และโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรมแบบครบวงจรซึ่งเป็นการต่อยอดทั้งในด้านพลังงาน อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจอย่างครบถ้วน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 บริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทูเอ็นเนอร์จีโฮลดิ้งส์ จำกัด (GWTE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 ได้ลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้นกับ ETC เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม นอกจากนี้ GWTE ยังได้ลงนามในสัญญาผู้ถือหุ้นกับ BWG เพื่อร่วมพัฒนาโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. สัญญาผู้ถือหุ้นระหว่าง GWTE กับ ETC
2. สัญญาผู้ถือหุ้นระหว่าง GWTE กับ BWG
ทั้งนี้ ภายหลังจากการดำเนินธุรกรรมดังกล่าวข้างต้น กลุ่มบริษัทฯ จะมีโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ. ภายใต้รูปแบบ Feed-in-Tariff (FiT) เป็นจำนวนทั้งสิ้น 12 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 96 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2569 และมีโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม (SRF) จำนวน 3 โครงการ ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2568 ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมในการพัฒนาโครงการ บริษัทฯ จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป.