หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 64.75 บาท ลบ 0.75 บาท, BDMS ปิด 27.75 บาท ลบ 0.25 บาท , PTT ปิด 34.25 บาท บวก 0.25 บาท, KBANK ปิด 124 บาท บวก 0.50 บาท, PTTEP ปิด 152 บาท บวก 2 บาท
บล.ทิสโก้ ชี้ดัชนีหุ้นไทยกำลังตั้งหลักใหม่ หลังแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจไทยปี 67 ถูกหั่นลง และกำไร บจ.ไตรมาส 4/66 ส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด แต่เริ่มเห็น 5 สัญญาณเชิงบวกที่ช่วยหนุนให้ดัชนีฟื้นตัวทะลุออกจากกรอบด้านบนที่ 1,405 จุดได้ ประเมินแนวรับเดือนนี้อยู่ที่ 1,370-1,375 แนวรับถัดไปที่ 1,350 และแนวต้านสำคัญที่ 1,405, 1,430-1,440 จุด ชอบหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศและท่องเที่ยวฟื้นตัว ผสานกับหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่นเดือน มี.ค. คือ BDMS, CENTEL, CPALL, CRC, MINT, SCB, TTB และ TU
ประเด็นบวกที่หนุนหุ้นไทยคือดอกเบี้ยไทยมีแนวโน้มปรับลงแม้เศรษฐกิจไทยปีนี้ถูกหั่นลงมาที่ 3% แต่ยังเติบโตดีสุดในรอบ 5 ปี และการเบิกจ่ายงบปี 67 เป็นบวกต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อที่คาดว่าจะลดลง ทำให้แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสถูกปรับลง 0.50% ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งการลดดอกเบี้ยลงทุกๆ 0.25% จะช่วยเปิดโอกาสการปรับขึ้นของดัชนีหุ้นไทยราว 45 จุด หรือ +3%
ขณะที่ตลาดเริ่มยอมรับว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะลดดอกเบี้ยลงได้ช้า โดยปรับลดคาดการณ์การลดดอกเบี้ยครั้งแรกของ FED จะเกิดขึ้นจากเดิมเดือน พ.ค. เป็นเดือน มิ.ย. และโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้ลดลงเหลือเพียง 3 ครั้ง เท่ากับ Dot Plot ของ FED ในเดือนธันวาคมและช่วงต้นปีนี้ที่ตลาดคาดจะลดมากถึง 6 ครั้ง
ด้านตลาดหุ้นและเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวต่อ ขานรับทางการจีนทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง ถือเป็นความหวังเชิงบวกของตลาดหุ้นไทย ทั้งนี้ บล.ทิสโก้แนะให้ติดตามการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) วันที่ 5 มี.ค.นี้ เพื่อกำหนดเป้าหมายและทิศทางเศรษฐกิจในปี 67
ส่วนการยกระดับการกำกับดูแลการขายชอร์ตและการใช้คอมพิวเตอร์ส่งคำสั่งซื้อขายจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพตลาดระยะยาว และกระตุ้นแรงซื้อคืนระยะสั้น โดยเริ่มเห็นแรงขายของต่างชาติชะลอตัวสลับกับการซื้อ ขณะที่การปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ของหุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว!!
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม