ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ก.พ.67 ปิดที่ 1,393.70 จุด ลดลง 4.44 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 55,731.56 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,299.73 ล้านบาท
หุ้นไทยแกว่งในแดนลบ ตามทิศทางเดียวกับหุ้นต่างประเทศ และผลการดำเนินงาน บริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4 และปี 66 ที่ออกมาต่ำกว่าคาด โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี อย่าง IVL ที่รายงานผลขาดทุน ขณะที่หุ้นรายกลุ่มรายตัว โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ เช่น CPALL-SISB ที่ออกมาดี ช่วยพยุงตลาดในภาพรวม
โฟกัสหุ้น MGI นักวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้ความเห็นกรณีหุ้น MGI ที่ราคาปรับขึ้นร้อนแรง มาจาก 2 ปัจจัย คือ 1.มาจากผลประกอบการปี 66 มีกำไรที่ 119 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 149% 2.การประเมินมูลค่าในเชิงธุรกิจ Affiliate Marketing ผ่านทางช่องโซเชียลมีเดีย เช่น ติ๊กต่อก ถือเป็นเรื่องใหม่ เป็นรูปแบบที่มีศักยภาพสูงมาก จะเห็นได้ว่าหลายประเทศที่มีการใช้โซเชียลมีเดียเข้ามาสนับสนุนทางการค้า บวกกับรูปแบบของธุรกิจที่มีผู้สนับสนุนในการแนะนำสินค้าและบริการ ทำให้การเข้าถึงฐานผู้ซื้อ และหากสินค้าดีจริง ก็สามารถที่จะสร้างรายได้สม่ำเสมอและดี
ขณะที่รายได้จากการประกวดเวทีนางงามไม่ใช่รายได้หลักที่มาจากการโฆษณา แต่เป็นรายได้จากการขายของเป็นหลัก ต้องถือว่ามีความแข็งแกร่ง แต่ความยากคือรูปแบบที่มีธุรกิจใหม่ Affiliate Marketing หลักในการประเมินศักยภาพการเติบโต หรือคาดการณ์การเติบโต หรือการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของบริษัทถือเป็นเรื่องยาก
แต่ต้องยอมรับว่าราคาหุ้นช่วง IPO ใหม่ อยู่ในระดับต่ำหรือถูกมาก และด้วยศักยภาพของกระแสเงินสด โอกาสที่จะเห็นหุ้นขึ้น 100-200% จากราคา IPO จึงมีความเป็นไปได้ แต่ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นไปถึง 10 เท่า ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่าแท้จริงแล้วการประเมินมูลค่ารูปแบบธุรกิจที่มีความใหม่แบบนี้มีศักยภาพสูงสุดได้แค่ไหน หรือจุดไหนคือความเหมาะสม
ดังนั้น จึงยังไม่มีคำแนะนำให้นักลงทุน เพราะยอมรับว่าเรายังไม่มีความคุ้นเคยกับการประเมินในรูปแบบธุรกิจ Affiliate Marketing และในประเทศไทยยังไม่มีธุรกิจใดที่มีรูปแบบที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียง
ถือว่า MGI เป็นหุ้นตัวแรก จึงต้องดูกรณีของหุ้นในต่างประเทศ เพื่อนำมาศึกษาว่าในช่วงแรกของการเติบโตนั้นอยู่ในช่วงระดับใดได้บ้าง ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดก็ยังไม่ได้เข้าใจพอที่จะประเมินภาพในส่วนนี้ได้.
อินเด็กซ์ 51
คลิกอ่านคอลัมน์ “เงาหุ้น” เพิ่มเติม