ทำไมหุ้นญี่ปุ่นขึ้นไม่หยุด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ทำไมหุ้นญี่ปุ่นขึ้นไม่หยุด

Date Time: 28 ก.พ. 2567 05:24 น.

Latest

เปิดพอร์ตหุ้น หมอบุญ วนาสิน จากผู้ก่อ THG เหลืออันดับที่ 11 สู่หมายจับฉ้อโกงกู้เงิน 8 พันล้าน

ตลาดหุ้น สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ต่างปิดที่ “สถิติสูงสุดใหม่” เมื่อวันศุกร์ ทั้งที่เศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นก็ไม่ดีนัก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ 39,131 จุด ดัชนีหุ้นนิเกอิ ญี่ปุ่น ก็ปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ 39,098 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี (ราคาปิด 22 ก.พ. วันศุกร์ที่ 23 ก.พ. ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิด เป็นวันพระราชสมภพของจักรพรรดิญี่ปุ่น) ในขณะที่ ตลาดหุ้นไทย ปิดลบ –4.33 จุด ลงไปอยู่ที่ 1,398 จุด วนเวียนอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ที่พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ตลอดเวลา เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จำนวนมาก หุ้นแต่ละตัวมีมูลค่าใหญ่กว่าจีดีพีประเทศไทยหลายเท่า

วันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปดู ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพื่อหาคำตอบว่า ทำไมหุ้นญี่ปุ่นราคาจึงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนดัชนีหุ้นนิเกอิทำสถิติสูงสุดใหม่มาตลอด ล่าสุดก็ทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 34 ปี ผมเชื่อว่าดัชนีนิเกอิจะทำลายสถิตินี้ต่อไปอีก ทั้งที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ย่ำแย่เข้าขั้นถดถอย ทางเทคนิคอัตราดอกเบี้ยก็ติดลบ แต่ตลาดหุ้นกลับวิ่งสวนทาง ทำให้นักลงทุนทั่วโลกหอบเงินแห่เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นไม่ขาดสาย ทำไมไม่เจียดเงินมาลงทุนที่ตลาดหุ้นไทยบ้างก็ไม่รู้ ทั้งที่นายกฯก็พยายามออกไปโรดโชว์ทั่วโลกมาไม่รู้กี่รอบ นัดพบผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่และนักลงทุนมากมาย แต่เงินก็ไม่เข้ามาสักที

ใน เว็บไซต์การเงินธนาคาร ล่าสุดมีรายงาน “4 เหตุผลดัชนีหุ้นญี่ปุ่นแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ในรอบ 34 ปี” โดยอ้างอิงข้อมูลจาก บลน.เทรเชอริสต์ ผมเลยขออนุญาตนำมาแชร์สู่กันฟัง

ดัชนี NIKKEI 225 ที่สามารถล้างคำสาป old all–time high ที่ระดับ 38,891 จุดได้ โดย ทำสถิติใหม่ที่ 39,098 จุด เมื่อวันที่ 22 ก.พ.67 เป็นการเอาชนะสถิติสูงสุดที่นิเกอิเคยทำไว้เกือบ 35 ปีก่อน ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเริ่มพลิกฟื้นในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา จากระดับ 6,994 จุด ในเดือนตุลาคม 2551 ขึ้นมาแตะที่ระดับ 39,000 จุด เมื่อวันที่ 22 ก.พ. เพิ่มขึ้นมาเกือบ 460%

ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทำได้อย่างไร ทั้งที่สภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ย่ำแย่กว่าไทยเสียอีก ต่อไปนี้คือ 4 เหตุผลหลักที่ทำให้หุ้นญี่ปุ่นกลับมาสดใสอีกครั้ง จาก บลน.เทรเชอริสต์

1.บริษัทต้องนำเงินออกมาคืนผู้ถือหุ้นมากขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นและตลาดหุ้นโตเกียว ได้ออกมาตรการกดดันบริษัทจดทะเบียนที่สะสมเงินสดไว้มาก แต่ไม่มีโครงการลงทุนใหม่และไม่จ่ายเงินคืนให้ผู้ถือหุ้นในรูปแบบที่เหมาะสม จนทำให้ Price/Book Ratio ของบริษัทจดทะเบียนกว่าครึ่งจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 1 เท่า สะท้อนถึงความเงียบเหงาน่าเบื่อและไร้ความหวังของบริษัท ทำให้บริษัทต้องนำเงินออกมาคืนผู้ถือหุ้นมากขึ้น ทั้งการซื้อหุ้นคืน การจ่ายเงินปันผล ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในตลาด ผลักดันให้มูลค่าบริษัทตาม dividend discount cash flow model สูงขึ้นทันที ตามอัตราจำนวนเงินปันผลที่จ่ายสูงขึ้น

2.เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง อัตราดอกเบี้ยนโยบายของญี่ปุ่นอยู่ในระดับไม่ติดลบก็ต่ำมาก ขณะที่ประเทศขนาดใหญ่อื่น เช่น สหรัฐฯมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนหนึ่งทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง แต่ในทางกลับกันก็ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงสกุลเงินเยนมีความน่าสนใจมากขึ้น จากราคาที่ถูกลงในมุมมองของนักลงทุนนานาชาติ

3.ธุรกิจภาคการส่งออกมีผลประกอบการดีขึ้น การที่เงินเยนอ่อนค่ามานาน ทำให้บริษัทจดทะเบียนที่เป็นผู้ส่งออกมีผลประกอบการดีขึ้น แลกเงินตราต่างประเทศเป็นเงินเยนได้มากขึ้น ก็ยิ่งทำให้หุ้นในตลาดหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

4.นักลงทุนหันกลับมาสนใจความคุ้มค่าของตลาดหุ้นญี่ปุ่น กระแสการกลับมาสนใจหุ้นญี่ปุ่น เริ่มจาก Warren Buffett มหาเศรษฐีนักลงทุนที่นำเงินหลายแสนล้านบาทไปซื้อหุ้นบริษัทในญี่ปุ่น ทำให้นักลงทุนหันมามองหุ้นญี่ปุ่นอีกครั้ง เห็นว่า ราคา underrated น่าเข้าซื้อสะสม

เหตุผลทั้ง 4 ข้อนี้แหละที่ทำให้ ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นพุ่งทำสถิติใหม่ ตัวเร่งที่สำคัญคือ นโยบายภาครัฐและตลาดหุ้น กดดันบริษัทที่สะสมเงินสดไว้มาก แต่ไม่ลงทุน เอาเปรียบผู้ถือหุ้น ต้องคายเงินสดออกมาในรูปเงินปันผลและซื้อหุ้นคืน เป็นมาตรการที่น่าสนใจครับ ตลาดหุ้นไทย น่าจะลองหาช่องทางกดดันบริษัทจดทะเบียนแบบนี้บ้างก็น่าจะดีนะครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ