ส่อง 5 DRx ใหม่ โอกาสลงทุนหุ้นบิ๊กเนมต่างประเทศ พบมี ROE ทะลุ 60%

DRx (Fractional Depositary Receipt) หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าถึงหลักทรัพย์ชั้นนำระดับโลกได้สะดวก สามารถซื้อขายได้ตามเวลาของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ และสามารถซื้อขายเป็นจำนวนเงินบาท หรือ จำนวนหน่วยก็ได้

ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รับ 5 DRx ใหม่ ซึ่งออกโดย ธนาคารกรุงไทย อ้างอิงหุ้นไลฟ์สไตล์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ Amazon, Booking Holdings, Meta, Netflix และ Starbucks ซึ่งเริ่มซื้อขายไปแล้ววันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ มี DRx จำนวนทั้งหมด 10 หลักทรัพย์

ส่องความน่าสนใจ DRx 5 หลักทรัพย์ใหม่

เพิ่มศักดิ์ จักร์มงคลชัย ผู้อำนวยการฝ่าย Chief Investment Officer ธนาคารกรุงไทย ได้เผยแพร่บทความ “รีวิว 5 DRx ตัวใหม่ ประตูแห่งโอกาสที่เปิดกว้างมากขึ้น” ซึ่งระบุว่าการออก 5 DRx ใหม่นี้ เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้กับนักลงทุนไทยให้ได้เข้าถึงบริษัทที่มีสินค้า บริการ และตราสินค้าที่โดดเด่นในระดับโลก ดังนี้

1.AMZN80X อ้างอิงหุ้นของบริษัท Amazon.com Inc. บริษัทค้าปลีกด้าน E-Commerce รายใหญ่ที่สุดของโลกในสหรัฐฯ และเป็นผู้ประกอบธุรกิจ Cloud Computing อย่าง Amazon Web Service (AWS) ที่ถือว่าเป็นเจ้าตลาดและยังเติบโตได้สูง

Amazon.com Inc. มีกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการให้บริการที่หลากหลาย สะท้อนจากงบการเงินไตรมาส 3/66 มีกำไรขั้นต้นที่ 46.2% และมีกำไรสุทธิที่ 3.6% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี อยู่ที่ 20%

2.META80X อ้างอิงหุ้นของบริษัท Meta Platforms Inc. บริษัทโซเชียลมีเดียเจ้าของแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Facebook Instagram และ WhatsApp ที่มีการเติบโตต่อเนื่องอย่างน่าสนใจ

Meta Platforms Inc. มีกำไรขั้นต้นที่สูงถึงกว่า 80% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 60% และมีกำไรสุทธิเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่ 29% ขณะที่ในอุตสาหกรรมจะขาดทุนเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) สูงถึง 24%

3.NFLX80X อ้างอิงหุ้นของบริษัท Netflix Inc. ผู้ให้บริการความบันเทิงสตรีมมิงวิดีโอรายใหญ่ที่สุดของโลก และผู้ผลิตคอนเทนต์ยอดนิยม ข้อมูล ณ ไตรมาส 3/66 บริษัทมีจำนวนสมาชิก 247.15 ล้านคน และแม้ว่าจะมีคู่แข่งเข้ามามากขึ้น แต่คนส่วนใหญ่ที่ยอมจ่ายค่าสมาชิกของแพลตฟอร์ม จะมี Netflix เป็นหลัก เนื่องจากมีคอนเทนต์ที่หลากหลาย

Netflix Inc. มีกำไรขั้นต้นเฉลี่ย 5 ปีที่ 39.4% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 61.5% แต่เนื่องจากมีฐานลูกค้ามากที่สุด ส่งผลให้มีกำไรสุทธิที่ 12.6% ขณะที่ค่าเฉลี่ยจะขาดทุนที่ -12.6% อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) สูงระดับ 29%

4.BKNG80X อ้างอิงหุ้นของบริษัท Booking Holdings Inc. ผู้ให้บริการด้านการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และ ร้านอาหาร อย่างครบวงจรบนแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Booking.com และ Agoda และบริษัทถูกจัดอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมย่อยอย่าง Travel Technology และเป็นหนึ่งในสมาชิกของดัชนี Nasdaq 100

Booking Holdings Inc. มีกำไรขั้นต้นสูงถึง 83% ขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 42% และมีกำไรสุทธิที่ 25.7% ฐานะการเงินแข็งแกร่งและไม่มีหนี้สินระยะยาวเลย แต่อัตราส่วนผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ยังสูงถึง 64%

5.SBUX80X อ้างอิงหุ้นของบริษัท Starbucks Corporation ธุรกิจร้านกาแฟชื่อดัง ซึ่งขายทั้งกาแฟ อาหาร และเครื่องดื่มอื่นๆ และมีสาขามากกว่า 30,000 แห่งในกว่า 80 ประเทศทั่วโลก

Starbucks Corporation มีกำไรขั้นต้นเฉลี่ย 5 ปี ที่ 26.6% ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 42% แต่มีกำไรสุทธิที่ 10.7% ดีกว่าอุตสาหกรรม ขณะที่ฐานะการเงินของบริษัทแข็งแกร่งมากจากการที่ผู้ใช้งาน Starbucks Reward เติมเงินเข้ามาก่อนซื้อของ ทำให้ Starbucks มีเงินสดในมือสูงถึงกว่า 3,500 ล้านเหรียญ

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney