EA รุกหนักอีวี ทุ่ม 1.4 หมื่นล้าน เน้นขยายกำลังผลิตแบตฯ ดันรายได้ปี 67 โตทะลุ 20%

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EA ประกาศแผนรุกหนักธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) วางงบลงทุน 1.4 หมื่นล้านบาท เน้นขยายกำลังการผลิตโรงงานแบตเตอรี่ พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโตจากปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20%

วิทยา เชียงอุทัย, CISA Assistant Vice President บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EA เปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายในปี 2567 บริษัทคาดหวังที่จะเห็นรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีนี้ โดยมีโครงสร้างรายได้จากธุรกิจพัฒนาเเละผลิตแบตเตอรี่ 46% ธุรกิจพลังงาน 26% ธุรกิจไบโอดีเซล 22% และธุรกิจอื่นๆ อีก 6% 

โดยวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลักๆ จะใช้ในการขยายกำลังการผลิตโรงงานแบตเตอรี่จาก 1 กิกะวัตต์ เป็น 2 กิกะวัตต์ เพื่อรองรับความต้องการแบตเตอรี่ภายนอกกลุ่มบริษัท โดยคิดเป็นสัดส่วน 46% ของงบลงทุนทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เช่น การขยายสถานีชาร์จไฟฟ้า 13% การลงทุนในธุรกิจพลังงานลม 25%

ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกได้มีนโยบายสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศนั้น ปัจจัยหลักที่ส่งอาจผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เช่น สหรัฐฯ ที่ตั้งเป้าหมายว่ายอดขายรถใหม่ในปี 2573 จะต้องเป็นยานยนต์ไฟฟ้ามากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือสหราชอาณาจักรที่จะแบนการขายรถยนต์น้ำมันในปี 2578

สำหรับประเทศไทยเอง รัฐบาลมีมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า “EV 3.5” พร้อมมีนโยบายตั้งเป้าภายในปี ค.ศ. 2030 หรือปี 2573 การผลิตยานยนต์ในประเทศจะต้องเป็นยานยนต์ไฟฟ้า 30% ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งเชื่อว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามเป้าหมายการเป็น EV Hub ในภูมิภาค

ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial EV) เป็นหลัก เนื่องจากบริษัทสามารถตอบสนองการใช้เทคโนโลยีชาร์จเร็วได้ และมีความง่ายต่อการบริหารจัดการเส้นทางสถานีชาร์จ รวมถึงมองว่ายังมีโอกาสอีกมาก สะท้อนจากความต้องการในตลาดที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี และตลาดยังมีอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นใหม่ (Barriers to Entry) จากกำแพงภาษี

โดยบริษัทตั้งเป้าปี 2567 มียอดขายยานยนต์ไฟฟ้าที่ 3,300 คัน หรือประมาณ 5% ของจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ทั้งหมดในตลาด แบ่งเป็นรถบรรทุกไฟฟ้า 1,650 พันคัน ส่วนที่เหลือเป็นรถบัสไฟฟ้า ส่วนปี 2566 คาดว่าจะสามารถส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าได้ที่ระดับ 3,000 คัน จาก 9 เดือนแรก ทำได้แล้วกว่า 2,000 คัน

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment