ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจากต้นปีปรับตัวลดลงมากว่า -18.62% ทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยกว่า 1.9 แสนล้านบาท โดยประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่อง คือ การถูกตั้งข้อสังเกตว่าตลาดหุ้นไทยกำลังถูก Program Trading เข้ามาถล่มตลาด
โดยล่าสุด ในการซื้อขายในวันที่ 13 ธ.ค. พบว่าตลาดหุ้นไทยมีการใช้โปรแกรมเทรดดิ้งสูงกว่า 42% ในมูลค่าการซื้อขายรวม
กิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ post แสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook โดยมีข้อความว่า เลิก Program Trading… จะดี
ทั้งนี้ สร้างแรงกระเพื่อมในวงการตลาดหุ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดย ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยกับ #ThairathMoney ว่า การเลิกโปรแกรมเทรดนั้นอาจไม่ใช่สิ่งที่เราจะทำในเวลานี้ แต่สิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. คือ การสร้างความเท่าเทียมในการซื้อขายของนักลงทุนรายบุคคลและนักลงทุนต่างชาติ
“ที่ผ่านมาตลาดเรามีพัฒนาการที่ดีมาตลอด จากยุคเคาะกระดานมาจนถึงยุคปัจจุบัน เราไม่สามารถฝืนกระแสของเทคโนโลยีได้ แต่สิ่งที่เราควรจะทำ คือ การสร้างความเท่าเทียมกันระหว่างนักลงทุนรายบุคคลและนักลงทุนต่างชาติ”
ทั้งนี้ ภาพของการซื้อขายในตลาดหุ้นในเวลานี้ นักลงทุนสถาบัน หรือนักลงทุนต่างชาติ กับนักลงทุนรายย่อยมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่ โดยในส่วนนักลงทุนสถาบัน หรือต่างชาติ ที่เน้นการเทรดด้วยความเร็วสูง สามารถวางเชื่อมต่อการซื้อขายกับตลาดหลักทรัพย์ได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านโบรกเกอร์ ส่วนนักลงทุนรายบุคคลต้องส่งคำสั่งผ่านโบรกเกอร์ และมีขั้นตอนที่เยอะกว่า ทำให้การส่งคำสั่งซื้อขายในด้านความเร็วนั้นมีความได้เปรียบและเสียเปรียบกันอยู่
นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่งในเรื่องการ Shortsell ที่ยังไม่ถูกปิด หากมีผู้ที่ไม่หวังดีใช้โปรแกรมเทรดดิ้งควบคู่ไปกับการทำ Shortsell ก็จะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ โดยในเวลานี้ มีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนบางรายเริ่มออกมาพูดว่า พบการทำ Naked Short ในหุ้นของตน ซึ่งในเรื่องนี้ต้องพิสูจน์
อย่างไรก็ตาม แม้ที่ผ่านมามีความคิดเห็นที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ FED จะมีมติ คงดอกเบี้ยนโยบายในคืนที่ผ่านมา และส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในปีหน้า อาจทำให้ภาพของตลาดหุ้นไทยฟื้น แต่ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยนั้นอิงกับปัจจัยต่างประเทศน้อยมาก แสดงให้เห็นว่าเราอาจมีปัญหาภายในอยู่ ดังนั้นเราควรโฟกัสและแก้ไขในจุดนี้
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่