เปิดแนวรับสุดท้ายของหุ้นไทย ยืนไม่ได้เป็นขาลงเต็มตัว โบรกฯ ชี้ “หุ้นถูกแต่ไม่น่าซื้อ”

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดแนวรับสุดท้ายของหุ้นไทย ยืนไม่ได้เป็นขาลงเต็มตัว โบรกฯ ชี้ “หุ้นถูกแต่ไม่น่าซื้อ”

Date Time: 24 ต.ค. 2566 10:45 น.

Video

ดร.พิพัฒน์ KKP กระเทาะโจทย์เศรษฐกิจไทย บุญเก่าเจอความเสี่ยง บุญใหม่มาไม่ทัน

Latest


ตลาดหุ้นไทยหลุดแนวรับ 1,400 จุด ทำให้ภาพของการลงทุนในเชิงกราฟเทคนิคในตลาดหุ้นไทยเริ่มน่ากังวล โดยนักวิเคราะห์ มองว่า หากดัชนีหลุดแนวรับสำคัญในรอบนี้ อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นในภาพ 6-12 เดือนข้างหน้าจะเป็นขาลงเต็มตัว และแม้ว่าราคาหุ้นจะเริ่มถูก แต่ปัจจัยโดยรวมกลับน่ากังวล

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า หลังหลุดระดับ 1,400 จุดลงมา สัญญาณทาง Technical บ่งชี้ถึงระดับความเสี่ยงของดัชนีตลาดหุ้นไทยที่มีมากขึ้น วันนี้คาดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,385-1,415 จุด หุ้น Top Pick เลือก BH, MAJOR และ WHA

 

ศุกร์ที่ผ่านมาลงหนักดึงหลุดจุดต่ำสุด 1,400 จุด ใกล้แนวรับรายเดือน 1,395 จุด แต่เกิด Positive Divergence ใน RSI มีเกิดโอกาส Rebound ช่วงสั้น จะ Confirm สร้างฐานสะเด็ดน้ำเมื่อพ้นแนวต้าน 1,430-1,450 จุดอีกรอบ กรณีกระแทกต่อหลุด 1,395 จุด มีฐานรายปี 1,350-1,360 จุด และจะกลายเป็นขาลงเต็มตัวในภาพระยะยาว (6-12 เดือน)

 

การหลุดระดับ 1,400 จุดของ SETIndex เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หากมองในมุมของมูลค่าพื้นฐานของหุ้นแล้ว เห็นว่าที่ระดับดัชนีปัจจุบันถือว่าต่ำมาก กล่าวคือ Market Earning Yield Gap อยู่ที่ 3.8% มีค่า PER ที่ 15.79 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี และ PBV 1.37 เท่า คิดเป็นระดับ -2SD แต่อย่างไรก็ตาม หากมองในเชิงปัจจัย แวดล้อมที่เป็นตัวกำหนด Sentiment เห็นว่ายังเต็มไปด้วยปัจจัยที่ต้องระมัดระวัง เริ่มจากสถานการณ์สงครามอิสราเอล-ฮามาส โดยแม้จะเห็นสัญญาณบวกจากการเริ่มปล่อยตัวประกัน (รวม 4 คน) จากฮามาส แต่ท่าทีของอิสราเอลยังเตรียมเดินหน้าที่จะใช้กำลังทางบกเข้าไปในกาซา

 

ขณะที่พันธมิตรฝั่งฮามาสอย่างอิหร่าน ก็มีท่าทีแข็งกร้าวมากขึ้น ส่วนตลาดการเงิน Bond Yield สหรัฐฯ กลับมาผันผวนอีกครั้ง นำมาซึ่งความกังวลเรื่องทิศทางดอกเบี้ย

 

ด้วยประเด็นดังกล่าว ทำให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป ดังนั้นค่าเงินบาท จึงมีโอกาสอ่อนค่าอีกในระยะถัดไป และหนุนให้ FLow ต่างชาติชะลอการไหลเข้าตลาดหุ้นไทยได้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณา SET Index ในเชิง Valuation ถือว่ามีความน่าสนใจในหลายมุม อาทิ P/E66F อยู่ที่ 15.79 เท่า (ต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ย 10 ปี), PBV ที่อยู่ 1.37 เท่า (ระดับ -2SD), MEYG66F อยู่ที่ 3.8 เท่า (สูงกว่าหลายๆ ประเทศ) และ EPS Growth 67F สูงเป็นระดับต้นๆ ในเอเชีย เทียบเท่าจีน เวียดนาม เป็นต้น

ส่วนในบ้านเรา 2 เรื่อง ที่อยู่ในความสนใจ ได้แก่ Digital Wallet และแลนด์บริดจ์ ซึ่งต้องตามความคืบหน้า หลังหลุดระดับ 1,400 จุดลงมา สัญญาณทาง Technical บ่งชี้ถึงระดับความเสี่ยงของ SET Index ที่มีมากขึ้น วันนี้คาดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,385-1,415 จุด หุ้น Top Pick เลือก BH, MAJOR และ WHA.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ