หุ้นน่าทยอยสะสม!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ต.ค.66 ปิดที่ 1,447.30 จุด ลดลง 22.16 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 60,384.79 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 4,440.48 ล้านบาท

บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ชี้ว่า ดัชนีหุ้นไทยยังขาดแรงสนับสนุนจาก Fund Flow ขณะที่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นมาเร็วที่ 37 บาทต่อดอลลาร์ กดดันให้ต่างชาติมีโอกาสขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงสั้นๆได้ ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนที่ตลาดยังขาด Fund Flow หนุน ต้องเน้นถือเงินสดบางส่วนที่ 20% และทยอยสะสมหุ้น เพื่อหวังผลระยะกลางถึงยาวเป็นหลัก

โดยจุดที่สะสมหุ้นเพิ่ม แนะนำช่วงค่าเงินบาทที่ชะลออ่อนค่า หรือ Fund Flow เริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยได้ทำการค้นหาหุ้นที่มีค่า P/E24F ต่ำกว่าระดับ-1SD ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าถูกกว่าในช่วงอดีตที่ผ่านมามาก พร้อมกับข้อมูลผลตอบแทน (ytd) ที่ยังติดลบ ซึ่งมีบางบริษัทเข้าเขต Oversold ด้วย ได้ผลลัพธ์หุ้น P/E ถูกกว่าปกติ น่าจะทยอยสะสมเพื่อหวังผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะกลางถึงยาว

ทั้งนี้ พบว่ามี 16 หุ้น P/E ถูกกว่าปกติ น่าทยอยสะสมหวังผลระยะกลางถึงยาว SCGP-STEC-BGRIM-RATCH-TIDLOR-HMPRO-GULF-SPALI-KBANK-SAWAD-SCC-CPALL-CPN-MTC-SCB-KTB

ขณะที่แม้ต่างชาติจะขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีถึง 3 ต.ค.66 (YTD) พบว่า มีการขายสุทธิ 8 เดือนติดต่อกัน มูลค่าสุทธิ 1.56 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้เปิดเผยสถิติ ณ ส.ค.66 นักลงทุนต่างชาติถือครองหุ้นไทย 30.50% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีสัดส่วนถือครอง 26.84% ขณะเดียวกันการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติปีนี้คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิดที่สัดส่วนการซื้อขายไม่ถึง 30%

นอกจากนี้ เมื่อนับรวมการถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติและ NVDR ณ ส.ค.66 อยู่ในระดับ 30.61% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีสัดส่วนถือครอง 26.97%

โดยภาพรวมการถือครองหุ้นไทย แยกตามประเภทนักลงทุน ถือว่า มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยนักลงทุนต่างชาติยังอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่ที่ระดับ 30.50% ส่วนนักลงทุนในประเทศ อยู่ที่ระดับ 47.26% แยกเป็นนักลงทุนรายย่อย 27.70%, นิติบุคคลอื่นๆ 19.56% ด้านผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ อยู่ที่ระดับ 21.99% และบริษัทหลักทรัพย์ทั้งที่เป็นสมาชิกและไม่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ฯอยู่ที่ระดับ 0.25%.

อินเด็กซ์ 51

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่