6 หุ้นแจ๋วได้ดีมาตรการรัฐ!!
Date Time: 20 ก.ย. 2566 05:06 น.
“Summary“
- ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 19 ก.ย.66 ปิดที่ 1,522.96 จุด ลดลง 4.61 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 43,232.58 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,117.08 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด BDMS ปิด 26.25 บาท ลบ 0.50 บาท, CPALL ปิด 62.25 บาท ลบ 1 บาท, KBANK ปิด 127 บาท ลบ 2 บาท, PTT ปิด 34 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, PTTEP ปิด 169 บาท บวก 1 บาท
หุ้นไทยลงตามหุ้นภูมิภาค นักลงทุนชะลอลงทุนติดตามผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯและถ้อยแถลงของเฟด กับเงินเฟ้อมีทิศทางเพิ่มขึ้น
บล.กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์ 6 หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยบริษัทที่คาดว่าจะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์หลักจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท, อัดฉีดรายได้, ลดค่าครองชีพ และกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัย ที่โดดเด่นและแนะนำให้ “ซื้อ” ดังนี้
หุ้น TIDLOR ให้ราคาเป้าหมาย 31.40 บาท ถือเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถยนต์ที่มีหลักประกัน จากกลยุทธ์การเติบโตในเชิงอนุรักษนิยม แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้นและมูลค่าหุ้นที่ถูกลง
หุ้น CPALL ให้ราคาเป้าหมาย 77.40 บาท เป็นหุ้นเด่นกลุ่มค้าปลีกจากการเป็นผู้ได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ รวมถึงการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่กำลังจะเกิดขึ้น หุ้น MEGA แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 49.20 บาท หุ้น MEGA ให้ราคาเป้าหมาย 49.20 บาท คิดว่าการประเมินมูลค่าหุ้นของ MEGA ถูกเกินไป เนื่องจากแนวโน้มทางธุรกิจเหนือกว่าคู่แข่ง
หุ้น AP ให้ราคาเป้าหมาย 14.20 บาท ชี้แนวโน้มกำไรที่สูงทำสถิติใหม่หลายปีติดต่อกัน และ DY ที่สูงกว่า 5.5% หนุนคำแนะนำ ขณะที่การตอบรับคอนโดใหม่ 3 แห่งใน 4Q23 จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาหุ้นหลักในระยะสั้น หุ้น BBIK ให้ราคาเป้าหมาย 158.34 บาท คาดว่ากำไรสุทธิที่แข็งแกร่งใน 2Q23 จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น
ปิดท้าย หุ้น ADVANC แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 240.57บาท ปัจจัยหนุนราคาหุ้น ได้แก่ 1.สภาพแวดล้อมของตลาดเซลลูลาร์และ FBB ที่สามารถแข่งขันได้หลังจากรวมบัญชี 2.Upside จากการประกันรายได้ที่ลดลงหลังจากเข้าซื้อ TTTBB 3.การปลดล็อกมูลค่าที่อาจเกิดขึ้น เช่น การแยกสินทรัพย์รวมถึงเสาสัญญาณ!!
อินเด็กซ์ 51
Author
