เป็นที่น่าจับตามอง สำหรับการจัดประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เวทีการประกวดนางงามที่หลายคนให้ความสนใจ ภายใต้ บริษัท ทีพีเอ็น โกลบอล (TPN Global) ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์จากบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN นำทัพบริหารโดย “แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์”
การประกวด #MissUniverseThailand2023 (มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023) รอบ Final Competition เมื่อคืนที่ผ่านมา ปรากฏว่า แอนโทเนีย โพซิ้ว ผู้เข้าประกวด #MUT นครราชสีมา หมายเลข 31 คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ไปครองตามความคาดหมาย
วันนี้ #ThairathMoney จะพาไปส่องผลงานของหุ้น JKN ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในประเทศ ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้า ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และธุรกิจการบริหารจัดการลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล
เปิดกำไร JKN
ย้อนกลับไปเมื่อ 3 ปีก่อน พบว่า บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 มีรายได้รวม 1,682.87 ล้านบาท กำไรสุทธิ 312.47 ล้านบาท ต่อมาปี 2564 มีรายได้ 1,805.79 ล้านบาท กำไรสุทธิ 179.35 ล้านบาท และปี 2565 มีรายได้ 2,670.10 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 608.43 ล้านบาท
ล่าสุด JKN ประกาศผลประกอบการงวด 6 เดือน ช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีรายได้ 1,500.11 ล้านบาท เติบโต 50.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 102 ล้านบาท เติบโต 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะจากการรับรู้รายได้ของกลุ่มธุรกิจมิสยูนิเวิร์สฯ หนุนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ตอกย้ำความสำเร็จการลงทุนเชิงกลยุทธ์จากการเข้าซื้อมิสยูนิเวิร์ส ขณะที่ กลุ่มธุรกิจคอนเทนต์ มียอดขายที่ดีต่อเนื่องจากตลาดต่างประเทศ ส่งผลให้ผลงานไตรมาส 2/66 มีกำไรสุทธิ 53 ล้านบาท หรือเติบโต 106%
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในส่วนการขายและให้บริการจัดการสิทธิ์ของมิสยูนิเวิร์ส บริษัทได้มีการทำสัญญากับคู่สัญญาใน ธุรกิจหลากหลายด้านที่เกี่ยวเนื่องกับมิสยูนิเวิร์ส ณ 30 มิถุนายน 2566 โดยบริษัทได้มีการทยอยรับเงินตามงวดในสัญญาไว้แล้ว โดยบริษัทได้บันทึกการรับเงินตามงวดรายการของสัญญาเหล่านั้นภายใต้หัวข้อ “รายได้รอตัดบัญชี” (ตามรายงานผู้สอบบัญชี) จำนวน 251 ล้านบาท โดยจำนวนส่วนใหญ่จะมีการรับรู้เป็นรายได้ภายในปี 2566
ด้าน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ JKN เปิดเผยว่า บริษัทสามารถขับเคลื่อนการเติบโตของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ได้อย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มธุรกิจองค์กรนางงามจักรวาล หรือ มิสยูนิเวิร์ส (MUO) ที่สร้างการเติบโตที่ดี จากโครงสร้างรายได้ 9 ด้าน ที่บริษัทฯ เริ่มทยอยรับชำระเงินตามสัญญาในด้านต่างๆ ของธุรกิจมิสยูนิเวิร์สอย่างมีนัยสำคัญ รวมเป็นเงินกว่า 230 ล้านบาท ซึ่งช่วยส่งเสริมกระแสเงินสดที่ดี โดยจะทยอยรับรู้รายได้ดังกล่าวในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้
ตลอดจนความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจตอนเทนต์ที่มีจุดแข็งจากการเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ดังระดับโลกในรูปแบบ Output Deal ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้ชมเพื่อจำหน่ายให้แก่คู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ มีอัตราการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ
สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง จะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของบริษัทจากแผนงานขยายกลุ่มธุรกิจมิสยูนิเวิร์ส ไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ภายใต้กลยุทธ์ “3P: Pregent Plantform Product” ผ่านโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย เช่น การร่วมมือกับพันธมิตร หรือการให้สิทธิใช้แบรนด์มิสยูนิเวิร์สที่ได้รับค่าตอบแทนจากการให้สิทธิ ช่วยสร้างการเติบโตและมีรายได้ประจำและสม่ำเสมอ
เนื่องจาก ‘มิสยูนิเวิร์ส’ เป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ทรงพลังและได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก สามารถต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม กลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์แอนด์สปา และทัวร์ท่องเที่ยว Inbound-outbound เพื่อทำตลาดไปทั่วโลก โดยคาดว่าเริ่มทำตลาดได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4
นอกจากนี้ จะมีรายได้จากการจัดการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 72 ที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายปีนี้อีกด้วย จึงมั่นใจว่าเป้าหมายการเติบโตปีนี้จะทำได้ 3,400 ล้านบาทตามแผนที่วางไว้