อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า การลงทุนในหุ้นของบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด หรือ “สุกี้ตี๋น้อย” ที่ระดับ 30% ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว จากแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการ พร้อมทั้งเชื่อว่า สุกี้ตี๋น้อย จะเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนผลประกอบการของกลุ่มเจมาร์ทในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ โดยคาดว่าตัวเลขยอดขายทั้งปีจะอยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
สุกี้ตี๋น้อย มีแผนการขยายสาขาเพิ่มเติมภายในปีนี้ราว 60 สาขา โดยมีพื้นที่รองรับการขยายสาขาแล้ว 55 สาขา โดยจะเน้นการขยายสาขาในกรุงเทพมหานครเป็นหลัก พร้อมทั้งมีแผนขยายสาขาไปต่างจังหวัดด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการขยายสาขาในต่างประเทศเพิ่มเติม โดยได้คุยกับพันธมิตรในกัมพูชา 1 ราย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ การทำตลาด สถานที่ตั้ง และโมเดลธุรกิจ โดยคาดว่าจะสามารถมีความชัดเจนได้ภายในปี 67 พร้อมกับอยู่ระหว่างศึกษาการขยายสาขาไปยังจังหวัดอุดรธานีและอุบลราชธานี เพื่อโอกาสการขยายไปยังสปป.ลาว แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีการลงรายละเอียดมาก
ขณะเดียวกัน สุกี้ตี๋น้อย เตรียมยื่นหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นไอพีโอภายในปี 2567 และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในปี 2568 จากเดิมคาดภายในปีหน้า
ทั้งนี้ มองว่า สุกี้ตี๋น้อย ยังไม่มีความรีบร้อนในการระดมทุน เนื่องจากปัจจุบันมีเงินสดในมือพร้อมลงทุนราว 800-900 ล้านบาท พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบภายใน และการขยายสาขาเพิ่มเติมด้วย
อดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ผลประกอบการของกลุ่มเจมาร์ทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสที่ 2/66 หลังการตั้งสำรองหนี้เสียจำนวนมากของ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ใกล้จบ โดยเชื่อว่าหนี้จำนวนที่เหลือจะสามารถเจรจากลับมาได้ 80-90% ส่วนอีก 10% จะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งมีความเชื่อมั่นว่า จะทำให้ผลประกอบการจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในอนาคต
ขณะเดียวกัน บริษัทเชื่อว่าปี 2566 นี้ ผลประกอบการของกลุ่มเจมาร์ท จะสามารถมีกำไรได้ด้วยองค์ประกอบการเติบโตของบริษัทย่อยในกลุ่ม และการขยายธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ฐานกำไรจะสูงขึ้น โดยยังมีอีกหลายบริษัทที่ทั้งมีการเติบโตดี กำลังเติบโต และเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อขยายกิจการ เช่น บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ที่สามารถทำผลประกอบการเป็นสถิติใหม่สูงสุดได้ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ J ventures ที่ยังสามารถทำกำไรได้ หรือแม้แต่ สุกี้ตี๋น้อย ที่ถือเป็นการลงทุนคุ้มค่าระยะยาว
“ไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 ทุกท่านจะได้เห็นการกลับมาเติบโตของกลุ่มเจมาร์ท และจะเป็นฐานที่จะทำให้ทุกคนเห็นว่า ปีหน้าเราจะทำ All Time High ได้อย่างไร โดยมั่นใจว่า Earning ของบริษัทจะกลับมาเป็นบวกทั้งหมด” อดิศักดิ์ กล่าว