ADVANC หรือ เอไอเอส กำไรไตรมาส 2 โต 14% ธุรกิจหลักฟื้น-รายได้ค่าบริการเพิ่ม

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2/66 เอไอเอสมีรายได้รวมอยู่ที่ 44,774 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลงร้อยละ 4.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการฟื้นตัวของรายได้การให้บริการหลัก ที่ถูกชดเชยกับรายได้จากการขาย อุปกรณ์ที่ปรับตัวลดลงจากปัจจัยทางด้านฤดูกาล

ไตรมาส 2/2566 เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการขยายตัว ของภาคการท่องเที่ยว และอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มลดระดับลง ขณะที่เผชิญกับความกังวลจากหลายปัจจัย อาทิ ความไม่แน่นอนทางการเมือง และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจโลก

ทั้งนี้ เอไอเอสมีรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 33,903 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 1.1 จาก ไตรมาสก่อน จากการฟื้นตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ และธุรกิจอินเทอร์เน็ต บ้านความเร็วสูง ด้วยเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนที่ดีผ่านการนำเสนอบริการที่มุ่งเน้นคุณภาพและการสร้างมูลค่าเพิ่มในแพ็กเกจที่ให้แก่ลูกค้า โดยเน้นคุณภาพของโครงข่าย แพ็กเกจที่รวมหลากหลายบริการ และการ ให้บริการลูกค้าที่ดี นอกจากนั้นเอไอเอสยังคงให้ความสำคัญกับการเติบโตของ ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ด้วยการสร้างการเติบโตของรายได้ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่เอไอเอส

ขณะเดียวกัน กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ในไตรมาส 2/2566 อยู่ ที่ 23,317 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 เมื่อเทียบกับปีก่อนและร้อยละ 3.0 จาก ไตรมาสก่อน ตามการเติบโตของรายได้จากการให้บริการหลัก ร่วมกับการ ควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการตลาด

โดยสรุปเอไอเอสมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7,180 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 จากปีก่อน และร้อยละ 6.3 จากไตรมาสก่อน จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น และการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

นอกจากนี้ มุมมองของผู้บริหารต่อแนวโน้มและกลยุทธ์ในปี 2566 ยังไม่รวมผลกระทบจากธุรกรรมการเข้าลงทุนใน TTTBB และ 19% ของหน่วยลงทุน JASIF คาดการณ์รายได้การให้บริการหลักเติบโตที่ระดับร้อยละ 3 ถึง 5 ท่ามกลางความเสี่ยงและความไม่แน่นอน จากความเสี่ยงในด้านการเมืองภายในประเทศ การเกิดเศรษฐกิจชะลอตัวในหลายประเทศทั่วโลก ร่วมกับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจทำให้เกิดการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทาน และส่งผลต่อภาคการผลิตและอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้รับการสนับสนุนจาก การเติบโตในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากการเปิดประเทศเร็วกว่าที่คาดไว้ของประเทศจีนในช่วงต้นปี 2566 และอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวดีขึ้นซึ่งช่วยหนุน การบริโภคภาคเอกชนให้สูงขึ้น เอไอเอสได้วางเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงองค์กรจาก ผู้ให้บริการดิจิทัลไลฟ์ (Digital Life Service Provider) สู่ Cognitive Tech-Co ด้วย การพัฒนารากฐานสำคัญ 3 แกน ได้แก่ โครงข่ายอัตโนมัติ(Autonomous Network), ระบบไอทีอัจฉริยะ (IT Intelligence) และ การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อ ผลักดันการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ