เลือกหุ้น Laggard!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 ก.ค.66 ปิดที่ 1,523.81 จุด ลดลง 5.44 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 50,652.91 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 4,344.49 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 124.50 บาท ลบ 4.50 บาท, BBL ปิด 168 บาท บวก 3.50 บาท, SCB ปิด 107.50 บาท ลบ 3 บาท, KKP ปิด 55.75 บาท ลบ 4.75 บาท, KTB ปิด 20.20 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

หุ้นไทยปรับลงช่วงบ่ายก่อนปิดตลาด หลังผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้รัฐสภายุติการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้ก่อนขณะที่มีแรงขายให้แบงก์ใหญ่รายตัว หลังแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า สัปดาห์นี้นักลงทุนต้องเตรียมรับมือกับ 3 ปัจจัยสำคัญ ดอกเบี้ยโลก การเมืองไทย การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน โดยฝ่ายวิจัยทำการค้นหาหุ้นในกลุ่มที่ราคา Laggard ตลาด (SET-8.4%ytd) แต่กลับได้ Sentiment เชิงบวกจากประเด็นดังกล่าว ดังนี้

1.การประชุมธนาคารสำคัญของโลก เริ่มจากคืนวันที่ 26 ก.ค. ตลาดคาด Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายปีนี้ 0.25% เป็น 5.25% ต่อมาวันที่ 27 ก.ค. ECB มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 4.25% และวันที่ 28 ก.ค. BOJ อาจคงดอกเบี้ยที่ -0.1%

คาดจะสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นช่วงสั้น แต่อาจจะเป็น Sentiment ที่ดีในระยะถัดไปจากโค้งสุดท้าย Fed ขึ้นดอกเบี้ย แนะนำหุ้น Laggard ในกลุ่ม FIN–23.6%ytd (SAWAD, MTC, JMT), PROP–11.4%ytd (SPALI, AP, SIRI, ORI)

2.การโหวตนายกฯไทย ครั้งที่ 3 วันที่ 27 ก.ค.นี้ ประเมินภาพการเมืองช่วงนี้ว่าอยู่ในวิสัยที่คาดการณ์ได้มากขึ้น และน่าจะทำให้ Downdside ของ SET Index จำกัด ภายใต้การชุมนุมที่ไม่รุนแรงและไม่ยืดเยื้อ

แนะนำหุ้น Laggard ในกลุ่ม CONS–18.8%ytd (STEC,CK), โรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF), COMM–10.8%ytd (CRC, COM7, JMART)

3.รอประชุม Politburo กระตุ้นเศรษฐกิจจีน (27 ก.ค.) หลังจากเศรษฐกิจจีนไม่ได้ฟื้นขึ้นมาเร็วอย่างที่ตลาดคาด แนะนำหุ้น Laggard ในกลุ่ม PKG-28.9%ytd (SCGP), PETRO-17.7%ytd (IVL) และ TRANS ที่ลงใกล้ๆ ตลาดที่-7.3%ytd (III, BEM)

อินเด็กซ์ 51