ก.ล.ต.รุกขยายผลปั่นหุ้น STARK ชี้อายัดทรัพย์สินบริษัทในเครือไม่ได้ระงับทำธุรกิจ

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ก.ล.ต.รุกขยายผลปั่นหุ้น STARK ชี้อายัดทรัพย์สินบริษัทในเครือไม่ได้ระงับทำธุรกิจ

Date Time: 8 ก.ค. 2566 05:45 น.

Summary

  • ก.ล.ต.แจงไม่ได้ดำเนินการล่าช้า กรณี STARK ทำเต็มที่แล้ว แม้ผู้ต้องหาจะหนีออกนอกประเทศไปแล้ว พร้อมเดินหน้าขยายผลสอบการกระทำผิดทั้ง “ปั่นหุ้น—อินไซด์” และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ส่วนผู้สอบบัญชียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม แจงอายัดทรัพย์สิน 3-4 บริษัท ป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ ไม่ได้ระงับการทำธุรกิจ

Latest

THG ล้างบ้าน ตัดขายหุ้น RJH  กว่า 10 ล้านหุ้น รับเงิน 210 ล้านบาท  ช่วยฟื้นสภาพคล่อง

ก.ล.ต.แจงไม่ได้ดำเนินการล่าช้า กรณี STARK ทำเต็มที่แล้ว แม้ผู้ต้องหาจะหนีออกนอกประเทศไปแล้ว พร้อมเดินหน้าขยายผลสอบการกระทำผิดทั้ง “ปั่นหุ้น-อินไซด์” และอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ส่วนผู้สอบบัญชียังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม แจงอายัดทรัพย์สิน 3-4 บริษัท ป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์ ไม่ได้ระงับการทำธุรกิจ

นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการและรักษาการแทนเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผย ถึงการดำเนินการกรณี บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) หลังวันที่ 6 ก.ค.66 ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษร้องทุกข์บุคคลและนิติบุคคล 10 ราย ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในความผิด ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯหลายมาตรา ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการตัดสินใจ ใช้อำนาจตามมาตรา 267 ล่าช้า ในการขอให้คณะกรรมการ ก.ล.ต.ออกคำสั่งยึดอายัดทรัพย์และห้ามผู้ถูกกล่าวโทษเดินทางออกนอกประเทศ เพราะผู้ต้องหาหลายคนได้หนีออกนอกประเทศไปแล้ว และน่าจะมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกไปแล้วเช่นกัน

ก.ล.ต.ชี้ต้องใช้เวลาเก็บหลักฐาน

โดยนายธวัชชัยกล่าวว่า ก.ล.ต.มีแนวทางและขั้นตอนในการใช้มาตรการ ซึ่งต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอ เมื่อมีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดแล้ว จึงได้กล่าวโทษร้องทุกข์ และเสนอให้ บอร์ด ก.ล.ต.ใช้อำนาจตามมาตรา 267 ในการยึดอายัดทรัพย์และห้ามออกนอกประเทศตามมา ยืนยันว่าได้เร่งดำเนินการตามกระบวนการแล้ว

“เรื่องการใช้มาตรา 267 มีการตั้งคำถามว่า ทำไมเพิ่งมาใช้ ซึ่ง ก.ล.ต.มีอำนาจตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ที่มีมานานกว่า 30 ปี แต่เนื่องจากเรามีแนวทางที่วางไว้ ต้องเข้าเหตุตามกฎหมายที่บังคับใช้ มีการตั้งคณะทำงานดูแลการดำเนินการอยู่แล้ว แต่ต้องใช้เวลา และจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะความผิดอาญามีความรุนแรง”

นอกจากนี้ กำลังตรวจสอบและขยายผล หากพบพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดรายใดเพิ่ม ก็จะมีการทยอยกล่าวโทษเพิ่มหลังจากนี้แน่นอน และจะมีการตรวจสอบไปยังฐานความผิดอื่นๆที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ เพิ่มเติม หากพบพฤติกรรมหรือหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องการเปิดเผยข้อมูลอันเป็นเท็จแล้วมีใครนำไปใช้ประโยชน์หรือไม่ ซึ่งถือเป็นความผิดอยู่แล้ว กรณีการสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ผิดปกติ (ปั่นหุ้น) รวมถึงกรณีการซื้อขายบิ๊กลอตของผู้บริหารในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซด์) ที่คนอื่นยังไม่ล่วงรู้หรือไม่ ส่วนกรณีที่ ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษไป 10 รายข้างต้นนั้น มั่นใจว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวนและกระบวนการ ของศาล

นายธวัชชัยยังตอบคำถามว่าทำไมถึงยังไม่ดำเนินการใดๆกับผู้ตรวจสอบบัญชีว่า ในชั้นแรกยังไม่ถึงตัวผู้สอบบัญชี แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติม หากพบมีความมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด จะดำเนินการกล่าวโทษเหมือนผู้กระทำผิดรายอื่นๆ

อายัดทรัพย์รวมหุ้น TOA ของ “วนรัชต์”

ด้านนางพัฒนพร ไตรพิพัฒน์ ผู้ช่วยเลขาธิการ กล่าวถึงกรณีที่ ก.ล.ต.ได้สั่งห้ามผู้ถูกกล่าวโทษเดินทางออกนอกประเทศเป็นเวลา 15 วัน นั้น เป็นการใช้อำนาจของคณะกรรมการ ก.ล.ต.ตาม มาตรา 267 กรณีฉุกเฉินหรือมีความจำเป็นรีบด่วน เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยวาบุคคลดังกล่าวจะหลบหนีออกนอกประเทศ หลังจากนี้ สามารถขยายระยะเวลาได้ โดยต้องยื่นขอให้ศาลอาญาเป็นผู้พิจารณาและออกคำสั่ง ส่วนกรณีมีข่าวว่าผู้ต้องหาบางรายได้หนีออกประเทศไปแล้ว เป็นหน้าที่ของพนักงานสืบสวน ซึ่ง DSI มีกระบวนการติดตามตัวผู้กระทำผิด เช่น การขอส่งตัวคนร้ายข้ามแดน เป็นต้น

ส่วนการขอให้ยึดอายัดทรัพย์บุคคลและนิติบุคคลทั้ง 10 ราย ได้อายัดทรัพย์สินทุกประเภทรวมทั้งหุ้น TOA ของนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ส่วนการอายัดทรัพย์สิน บริษัทในเครือ 3-4 บริษัท ยืนยันว่า การสั่งอายัดทรัพย์สิน บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) และบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์และเป็นการอายัดทรัพย์เพียงเท่านั้น ไม่ได้ระงับการประกอบธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่า การดำเนินธุรกิจยังสามารถทำได้ปกติ เพราะบริษัทยังสามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานและซื้อขายสินค้าได้

ดีเอสไอแถลงความคืบหน้าคดี

ขณะเดียวกัน ที่ห้องรับรองกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบหมายให้ น.ส.พิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงความคืบหน้าคดีทุจริตหุ้น STARK ว่า ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีการทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นคดีพิเศษที่ 57/2566 เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2566 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน โดยการออกหมายเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ รวมถึงออกหมายจับนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เนื่องจากมีเหตุอันควรเชื่อว่าได้หลบหนี และออกหมายเรียกนายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตกรรมการบริษัทและในฐานะประธานบริหารฝ่ายการเงิน และผู้ที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหา รวมทั้งขอหมายค้นต่อศาล อาญา 15 จุด ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ได้พบ และยึดสิ่งของที่จะใช้เป็นพยานหลักฐาน ในการสอบสวนทั้งเอกสารการทำธุรกรรมต่างๆ.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ