วิกฤติ STARK กำลังสร้างแรงสั่นไหวกับตลาดทุน โดยผลกระทบจากการไม่สามารถส่งงบการเงินประจำปี 2565 ได้ สร้างผลกระทบกับผู้ถือหุ้นกู้ STARK 5 ชุด มูลค่า 9 พันล้านบาท และราคาหุ้นที่ปรับตัวร่วงรุนแรงจากระดับ 2.38 บาท ลงมาอยู่ที่ 0.09 บาท โดยทางบริษัทได้แจ้งว่าจะมีการส่งงบการเงินปี 2565 ภายในวันนี้ (16 มิ.ย. 2566)
สร้างความเจ็บปวดทั้งผู้ถือหุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นรายย่อย และนักลงทุนสถาบันกันไปตามๆ กัน โดยมีการคาดการณ์มูลค่าความเสียหายครั้งนี้อาจหลายหมื่นล้านบาทได้ ทั้งนี้นักลงทุนต่างฝากความหวังกับผู้ถือหุ้นใหญ่ คุณวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ที่ลงมาแก้ไขปัญหา รวมถึงกลุ่ม TOA GROUP อาณาจักรสี TOA นำโดย เจ้าสัวประจักษ์ ตั้งคารวคุณ จะเข้ามาช่วยหาทางออก
ล่าสุด หนึ่งในกงสี TOA ได้ออกมาพูดถึง STARK และมองว่าเป็นเรื่องที่ยากมากที่ TOA จะเข้าไปช่วย STARK ได้ โดยที่ นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจในกลุ่ม TOA ที่เป็นกงสี มีอยู่ 7 ธุรกิจ โดย บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เป็นธุรกิจส่วนตัวของคุณวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่ม TOA ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง และมองว่าเป็นเรื่องที่ยากมากที่ TOA จะเข้าไปช่วย STARK
“สิ่งที่ผมพูดได้ คือ STARK ไม่ได้อยู่ในกงสีของ TOA และเป็นธุรกิจส่วนตัว ที่ผ่านมาเราไม่ได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับ STARK มาก่อน และรับรู้ผ่านโซเชียลมีเดียเช่นเดียวกัน และคาดว่าในวันนี้ STARK ก็น่าจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ในมุมของ TOA ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ STARK ถามว่าจะเข้าไปช่วย STARK ได้ไหม เราก็มองไม่เห็นว่าจะเข้าไปได้แบบไหน และเราอยู่ในฐานะคนนอกที่เฝ้ามองเหตุการณ์ ไม่ใช่ว่าเราอยากช่วยจะช่วยได้ อันดับแรก TOA ทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เพราะเป็นอีกบริษัทหนึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ได้เกี่ยวพันอะไรกัน เป็นโอกาสที่เป็นไปไม่ได้
ถ้าถามว่า ในมุมของ TOA ให้ความสนใจในธุรกิจสายไฟหรือไม่ เราก็ตอบว่า ถ้ามีกำไรก็น่าสนใจลงทุน ถ้าถามว่า TOA สนใจไหม เราไม่เห็นความแมตช์กับธุรกิจของเรา
ส่วนในครอบครัวจะเข้าไปทำอะไรได้ไหม มันเป็นธุรกิจส่วนตัวของเขา (วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ) และไม่ได้มาเล่าอะไรให้ฟัง พวกเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าข้อมูล (งบการเงินปี 65) ออกมาก็คงต้องมาคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น โดยในมุมของครอบครัวนั้นเราคงเป็นด่านสุดท้ายก็คงต้องมาคุยกัน แต่ในวันนี้เราไม่ได้ถึงจุดนั้น
เดี๋ยวพรุ่งนี้ (16 มิ.ย.) ก็คงรู้แล้วว่าอะไรเกิดขึ้นใน STARK รอตรงส่วนนั้นก่อน STARK เขามีทีมบริหารของเขาเอง ต้องให้ทีมนั้นเขาจัดชีวิตตัวเองให้ได้ก่อน ถ้า STARK ขอความช่วยเหลือในแง่ครอบครัว ก็ยังตอบไม่ได้ เราไม่เข้าในธุรกิจของเขาคืออะไร ไม่เคยยุ่ง ยังมีอีกหลายคนที่เข้าไปมีบทบาทมากกกว่าเรา เช่นธนาคารก็ต้องปล่อยให้กระบวนการต่างๆ รันไปก่อน ครอบครัวอาจอยู่ท้ายๆ ผมไม่รู้ เราไม่เกี่ยวอะไรเขาเลย
อย่างไรก็ตามในมุมของครอบครัวนั้น ที่ผ่านมาก็มีผลกระทบบ้าง อย่างผมมีเพื่อนที่ถือหุ้นใน STARK ก็ขาดทุนก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนกระแสข่าวคุณประจักษ์เข้ามาดูแล STARK นั้น ผมไม่รู้ว่าคุณประจักษ์จะเอาเวลาไหนไปดู STARK และเขาเข้าไปดูแล TOA ทุกวัน
TOA คาดรายได้โต 15%
สำหรับการเติบโตของ TOA ในปีนี้เราคาดว่ารายได้จะเติบโตจากปี 65 ที่เราทำได้ 2 หมื่นล้านบาท ประมาณ 15% เป็นผลดีจากการเปิดประเทศที่นักท่องเที่ยวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ ธุรกิจโรงแรมเริ่มรีโนเวตสถานที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ผลดีจากต้นทุนที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ค่าเงินบาทแข็งค่าทำให้การนำเข้าวัตถุดิบนั้นถูกลง โดยผลการดำเนินงานอาจดร็อปลงในไตรมาสที่ 2 และ 3 ก่อนจะฟื้นตัวอีกครั้งในไตรมาสที่ 4.