กำหนดราคาขายแล้ว สำหรับ บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ “มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA” เคาะราคาเสนอขาย IPO ที่ราคา 7.95 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อตั้งแต่วันที่ 18 - 20 เมษายนนี้พร้อมแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ร่วมกันเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 3 ราย ประกอบด้วย (1) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (2) บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ (3) บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด
โดยการเข้าระดมทุนในครั้งนี้ MGC จะนำเงินไป ขยายระบบนิเวศทางธุรกิจตามแผนยุทธศาสตร์ และปรับโครงสร้างเงินทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมความพร้อมมุ่งสู่ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายยานยนต์ไฟฟ้า มุ่งบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และยกระดับบริการด้วยเทคโนโลยีเตรียมความพร้อมสู่ Digi-Tech Lifestyle Mobility
MGC กำหนดพี/อี 14.72 เท่า
ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยบริษัทฯ ในครั้งนี้ได้มีการกำหนดราคาเสนอขายที่ 7.95 บาทต่อหุ้น
หากพิจารณากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งเท่ากับ 603.50 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญภายหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ในครั้งนี้ทั้งหมดจำนวน 1,120,000,000 หุ้น (Fully Diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้น (Earnings Per Share) เท่ากับ 0.54 บาทต่อหุ้น และอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (Price to Earnings Ratio : P/E) ประมาณ 14.72 เท่า
ทั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินราคาหุ้นที่เสนอขาย บริษัทฯ ใช้วิธีการเปรียบเทียบอัตราส่วน P/E ของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ อย่างไรก็ดี เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ ประกอบธุรกิจที่ครอบคลุมการจำหน่ายสินค้าและให้บริการอย่างครบวงจรแก่ลูกค้ารายย่อย จึงไม่มีบริษัทจดทะเบียนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจยาน ที่มีการประกอบธุรกิจที่เหมือน คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงใช้ข้อมูล P/E เฉลี่ยของดัชนีของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจยานยนต์ มาพิจารณาประกอบกับดัชนีของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าแก่ลูกค้ารายย่อย เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง โดยมีค่า P/E เฉลี่ยอยู่ที่ 22.54 เท่า ทั้งนี้ ค่า P/E ดังกล่าวอ้างอิงข้อมูลจาก SETSMART ซึ่งคำนวณจากค่าเฉลี่ยของ P/E ในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2566
บัวหลวง ชี้ราคาที่เหมาะสม 12.30-13.40 บาท
ด้าน บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า บริษัทได้ประเมิน ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2023 ของ MGC ไว้ที่ 12.30-13.40 บาท โดยเรามอง MGC เป็นหุ้น “one-of-a-kind comprehensive lifestyle mobility product and service provider” ซึ่ง อิง Valuation เทียบเท่ากับกลุ่มบริษัทขายสินค้าเทคโนโลยีในประเทศไทย และสินค้าแบรนด์หรูในต่างประเทศ เราประเมินการการเติบโตของกำไรหลักปี 2023-25 เฉลี่ยต่อปีที่ 21% โดยเรามองปัจจัยบวกที่จะหนุนธุรกิจ 5 ประเด็นหลักประกอบด้วย
1) Mobility Ecosystem; ธุรกิจจำหน่ายยานยนต์มีครอบคลุมทุกตลาดทั้งตลาด Mass (Honda), Premium (BMW, Mini), Ultra-Luxury (Roll-Royce), Big bike, เรือยอชต์, เรือแม่น้ำ และการให้บริการเครื่องบินส่วนตัว
2) Services Ecosystem; ธุรกิจจำหน่ายยานยนต์เป็นเพียงประตูแรกในการสะสมฐานลูกค้าในระบบเพื่อสร้างรายได้ประจำจากการบริการหลังการขาย อีกทั้งยังสร้างโอกาสในการ Cross-sell/Upsell เช่น การให้บริการสินเชื่อ (Alpha X บริษัทร่วมระหว่าง MGC และ SCB X) และประกัน (Howdenmaxi จับมือกับ Howden)
3) EV Ecosystem; เราไม่ได้มองว่า MGC จะถูก Disrupt จากเทรนด์ดังกล่าว แต่กลับเป็นผู้ที่จะเติบโตตามเทรนด์ EV โดย MGC มีการจำหน่ายรถยนต์ EV จากแบรนด์ชั้นนำ อีกทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็น Tesla-approved body shop รายแรกและรายเดียวในตอนนี้นอกจากนั้นการเข้ามาของ EV ยังช่วยหนุนบริการหลังการขาย
4) Happiness Ecosystem; MGC มีธุรกิจที่ให้บริการทั้ง Ride, Drive, Fly, และ Sail อีกทั้งยังมีการให้บริการรถเช่าทั้งระยะสั้นและระยะยาว และ
5) ผู้บริหารมีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยาวนานมากกว่า 24 ปี