ปี 2566 นับเป็นปีทองของการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือ ที่เราเรียกกันว่า การเข้า IPO โดยจากการประเมินของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. คาดว่าในปีนี้อาจเห็นบริษัทเข้าระดมทุนมากกว่า 40 บริษัทและในจำนวนดังกล่าวก็มีหลายธุรกิจที่น่าสนใจและเป็นธุรกิจใหม่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ช่วยสร้างสีสันให้กับตลาดหุ้น
ธุรกิจหนึ่งที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนอย่าง HR Solution ที่ช่วยปลดล็อกการจัดหางานและเป็นตัวกลางระหว่างลูกจ้างและนายจ้าง ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจนี้ได้รับความนิยมจากนักลงทุนในตลาดหุ้น และในวันนี้ถึงคิวของผู้นำตลาดอย่าง บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งการระดมทุนครั้งนี้ถูกจับตาเมื่อกลุ่ม JMART ยักษ์ใหญ่ในด้านธุรกิจไอที และการเงินได้ประกาศจะเข้าซื้อหุ้นผ่าน Biglot จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมในราคาเดียวกับไอพีโอ
PRTR กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 150,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นประมาณ 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลัง IPO ในครั้งนี้ ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 7.2 บาท และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในวันที่ 15 มีนาคม 2566
คุณริศรา เจริญพานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRTR เปิดเผยกับ Thairath Money ว่า PRTR เปิดให้บริการมามากกว่า 30 ปีโดยให้บริการใน 3 ส่วน คือ 1 ให้บริการจัดจ้างบุคลากรและให้บริการบริหารทรัพยากรบุคคล 2 ให้บริการสรรหาบุคลากร และ 3 ให้บริการแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ โดยที่ผ่านมาบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการจัดจ้างบุคลากร และให้บริการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สูงมาก
“เทรนด์การใช้ HR Solutions จะมีมากขึ้นในอนาคต เพราะหลายบริษัทเลือกที่จะโฟกัสในธุรกิจหลัก อะไรที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักจะเอาต์ซอร์ซทั้งหมด อย่างการจัดหางานในส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการลดโหลดงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคล และในขณะเดียวกันช่วยให้เกิดโฟกัสในการทำงานมากขึ้นด้วย”
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตในด้านการให้บริการจัดจ้างบุคลากร ที่จะให้บริการลูกค้าในการจัดหาพนักงาน และดูแลด้านการจ่ายเงินเดือน และสวัสดิการให้กับลูกค้าและพนักงานตลอดอายุสัญญาจ้าง ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีดูแลพนักงานที่อยู่ภายใต้สัญญาทั้งสิ้น 1.5 หมื่นคน
จัดหางานกระจายหลายอุตสาหกรรม
ความโดดเด่นของ PRTR คือ มีความกระจายตัวของธุรกิจ เราไม่ได้โฟกัสจัดหางานในด้านธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเป็นพิเศษ แต่จะให้ความสำคัญในธุรกิจที่มีโอกาส อย่างในช่วงก่อนหน้าที่อุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมี หรือ พลังงานมีการรับคนจำนวนมาก บริษัทก็เข้าไปบริหารจัดการพนักงานในส่วนดังกล่าว หรือต่อมาในด้านอีคอมเมิร์ซมีการเติบโตแรงก็มีการปรับกลยุทธ์ทันที โดยปัจจุบันกลุ่มพนักงงานที่บริษัทดูแลนั้นอยู่ในอุตสาหกรรมด้านการสื่อสาร เครื่องสำอาง อีคอมเมิร์ซ
ทั้งนี้ภาพรวมของตลาดการจัดหางาน หรือ การจ้างเอาต์ซอร์ซแม้บริษัทจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดในกลุ่มนี้เป็นอันดับที่ 1 แต่เรากินสัดส่วนอยู่ประมาณ 5% เท่านั้น ทำให้เห็นว่าโอกาสที่จะเติบโตในตลาดกลุ่มนี้ยังมีอีกมาก
อาชีพใดถูกจ้างให้จัดหามากที่สุด
อย่างไรก็ตามหนึ่งในความน่าสนใจของ PRTR คือ การเข้าทำรายการของ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART จะเข้ามาถือหุ้นของ PRTR โดยจะทำรายการผ่าน Biglot จำนวน 90 ล้านหุ้นในราคาไอพีโอ นั้น ในเบื้องต้นต้องชี้แจงว่า เป็นการซื้อหุ้นต่อจาก คุณพอล เดวิด ชอนดี้ และกลุ่มคุณจารุวรรณ
คุณ ริศรา เผยว่า เมื่อเขากำลังจะเข้าตลาดหุ้นผู้ถือหุ้นใหญ่ของเรา 2 ท่าน ต้องการขายหุ้นต่อโดยได้มีการดำเนินการขายหุ้นที่ตนถืออยู่รวมกันจำนวน 101,145,000 หุ้นที่ถืออยู่ ทำให้มีการจัดสรรกับนักลงทุน 3 ราย รวมทั้ง กลุ่ม JMART ด้วย โดยที่ผ่านมา ความสัมพันธ์กับ JMART คือ เราเป็นผู้ให้บริการในการจัดหาพนักงานให้กับร้านค้าของ JMART และเมื่อหุ้นเดิมของเราต้องการขาย ทำให้กลุ่ม JMART ให้ความสนใจ บริษัทมองว่าโอกาสการเติบโตร่วมกันระหว่าง PRTR กับกลุ่ม JMART ที่ต้องการใช้ระบบการชำระเงินเดือน รวมถึงการรับจัดจ้างพนักงานในอนาคต
สำหรับแผนการเติบโตในอนาคตนั้นบริษัทมองโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ เพราะจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างการเติบโตได้ โดยเราอยากให้เห็นภาพบริษัทระดับโลกต้องการขยายธุรกิจในประเทศไทย หรือในเอเชีย มักจะมองหาบริษัทที่มีความพร้อมในการจ้างงานในหลายประเทศ ดังนั้นหลากเรามีออฟฟิศ หรือมีธุรกิจในต่างประเทศจะช่วยสร้างโอกาสการรับงานได้มากขึ้น