ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 ก.พ.66 ปิดที่ 1,685.75 จุด เพิ่มขึ้น 14.29 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 63,780.64 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 191.91 ล้านบาท
“ณัฐชาต เมฆมาสิน” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทรีนีตี้ มองหุ้นไทยเดือน ก.พ. ดัชนีแกว่งในกรอบ 1,630-1,730 จุด หุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวไปกับทิศทางของเงิน USD โดยช่วงต้นเดือนจะขึ้นอยู่กับท่าทีของ Fed ในการประชุมวันที่ 1 ก.พ. หากขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.25% ตามตลาดคาดจริงต้องติดตามต่อว่า Statement รวมถึงการ
แถลงของนาย Jerome Powell จะมีทิศทางไปในเชิง Dovish หรือ Hawkish มากน้อยแคไหน
ส่วนเศรษฐกิจไทย ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. พบการปรับตัวแข็งแกร่งของการบริโภคภาคเอกชน ในหมวดบริการ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัว เป็นปัจจัยหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้อง ร้านอาหาร โรงแรม และค้าปลีก เป็นต้น ทั้งนี้ มีหุ้นหลายตัวที่ราคาอยู่ในช่วงพักตัว มี Upside จากเป้าหมายของ Consensus ในระดับ 10% ขึ้นไป และมี Valuation อยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี เช่น หุ้น AU, M, ZEN, SHR, VRANDA, COM7, CPALL, CRC, GLOBAL, HMPRO ที่น่าสนใจ
เชิงกลยุทธ์ด้านเทคนิค ให้แนวรับเดือนนี้ที่ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน Take profit ให้ไว้ 2 แนวได้แก่ 1,700 และ 1,730 จุด หากดัชนีไปถึง 1,700 จุด ให้ใช้บริเวณนี้ลดน้ำหนักการลงทุนลงครึ่งหนึ่ง และถือลุ้นที่เหลือไปขายทำกำไรที่บริเวณ 1,730 จุด
หุ้นน่าสนใจเดือนนี้ ได้แก่ หุ้น DTAC ซื้อบนธีมการควบรวมกับ TRUE และถือรอ Convert เป็นหุ้นใหม่ คาดหลังควบรวมเสร็จสิ้น จะทำให้บริษัทใหม่มี Synergy เกิดขึ้น ทั้งฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายและความร่วมมือในการใช้เครือข่ายร่วมกัน,
หุ้นกลุ่ม Property ซึ่งราคายังปรับลง YTD สวนทางประมาณการกำไรที่ถูกปรับขึ้น ได้แก่ SPALI, WHA รวมทั้งหุ้นที่มักมี Track record เดือน ก.พ.ของทุกปี อยู่ในเกณฑ์ดี และ Valuation น่าสนใจ ได้แก่ AMATA, GLOBAL, INTUCH, JMT
อีกกลุ่มคือหุ้นกลุ่มบริการที่ได้ประโยชน์จาก Mobility ที่สูงขึ้นและราคาอยู่ในช่วงพักตัว ได้แก่ M, VRANDA ปิดท้าย คือหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ราคาปรับลงมารับผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่อ่อนแอไปแล้ว และกำไรมีแนวโน้ม Bottom out ต่อจากนี้ ได้แก่ GPSC!!
อินเด็กซ์ 51