ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ม.ค.66 ปิดที่ 1,685.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 61,394.66 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,516.24 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด AOT ปิด 75 บาท บวก 1.75 บาท, DELTA ปิด 860 บาท บวก 18.00 บาท, KBANK ปิด 152.50 บาท ลบ 0.50 บาท, PTTEP ปิด 173 บาท บวก 2.50 บาท, KCE ปิด 49.50 บาท ลบ 1.25 บาท
“สุกิจ อุดมศิริกุล” กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยปีนี้อยู่ที่ 1,750 จุด ได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวจากปัจจัยภายในและการท่องเที่ยว แม้ปัจจัยภายนอกยังท้าทายและความเสี่ยง แต่เศรษฐกิจไทยปี 66 ยังฟื้นตัวต่อเนื่อง มีปัจจัยหนุนสำคัญคือ การเปิดประเทศของจีนที่จะทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่องจากปี 65 การบริโภคภายในประเทศยังแข็งแกร่ง ช่วยลดความเสี่ยงจากการส่งออกที่ชะลอตัว บริษัทจดทะเบียนไทยมีสถานะการเงินแข็งแกร่ง และนโยบายการเงินก็เป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปทำให้ตลาดไม่ผันผวน
สิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปี 66 ได้แก่ 1.นักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตโดดเด่น ภาคบริการฟื้นตัว 2.เงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.ผลกระทบจากนโยบายการเงินค่อนข้างจำกัด 4.นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งแรกปี 66 และ 5.การเติบโตมีแนวโน้มชะลอตัวลงในไตรมาส 2
ทั้งนี้ หากตลาดจีนฟื้นตัว ตลาดหุ้นไทยจะได้ประโยชน์จาก Rally และส่งผลดีต่อ 4 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์, ขนส่ง, อาหารและเครื่องดื่ม และท่องเที่ยว
แนะกลยุทธ์ลงทุนปีนี้ ด้วยสภาพตลาดหุ้นที่ยังผันผวน แนะนำแบ่งหุ้นเป็น 2 พอร์ต สัดส่วน 70% ต่อ 30% พอร์ตที่ 1 เน้นหุ้นพื้นฐานดีที่ได้ประโยชน์จากเปิดเมืองของจีนและเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว, มีอัตราการเติบโตดีต่อเนื่อง และมีความเป็นหุ้นเชิงรับ หุ้นแนะนำ คือ AOT, BBL, BDMS, CPALL, CRC, GPSC และ SCGP
พอร์ตที่ 2 เน้นหุ้นเก็งกำไรที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะ Turnaround ได้ปี 66 โดยเป็นบริษัทที่ความเสี่ยงด้านฐานะทางการเงินต่ำ เลือกหุ้น AU, HANA และ SECURE เด่น.
อินเด็กซ์ 51