หุ้นPLANB พุ่งหลัง บลจ.บัวหลวงเข้าเก็บพอร์ตทะลุ 15% นักวิเคราะห์ชี้โฆษณาปี66 ฟื้นตัวแรง

เก็งหุ้นสื่อฟื้น บลจ.บัวหลวง เดินหน้าเก็บหุ้น PLANB เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น จากระดับ 9% เป็น 15% นักวิเคราะห์ชี้ อุตสาหกรรมโฆษณากำลังฟื้นตัว สัญญาณชัดอัตราการใช้พื้นที่เพิ่มขึ้น

ความเคลื่อนไหวการซื้อขายหุ้นของบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) PLANB ในวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในการซื้อขายช่วงเช้าปิดการซื้อขายที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้นจากวานนี้ 5.88% โดยการปรับตัวเพิ่มขึ้นนี้เป็นวันเดียวที่ บลจ.บัวหลวงได้รายงานการเข้าถือหุ้น PLANB เพิ่มขึ้นเกิน 15%

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รายงานว่า บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) โดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด ซึ่งเป็นการได้มา เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2566 จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา คิดเป็น 0.1495% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการจำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา คิดเป็น 15.0008% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มา ของกลุ่มคิดเป็น 0.1495% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มา ของกลุ่มคิดเป็น 15.0008% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ทั้งนี้การถือหุ้น PLANB ในสัดส่วนของ บลจ.บัวหลวง นั้นมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า ที่ระดับ 9.53%

บล.เอเซีย พลัส ประเมินว่า ทิศทางของสื่อนอกบ้านยังสดใส โดยจากการให้ข้อมูลจาก PLANB ยังคงมุมมองเชิงบวกอย่างมากต่อประมาณการภาพรวมเม็ดเงินสื่อโฆษณาในปีนี้ที่คาดจะมีเม็ดเงินรวมอยู่ที่ 1.2 แสนล้านบาท เติบโต 12%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย 9 เดือนแรกของปี 2565 มีเม็ดเงินรวมอยู่ที่ 8.8 หมื่นล้านบาท เติบโต 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ภาคเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวบวกกับเงินเฟ้อที่เป็นขาลง ช่วยหนุนความมั่นใจของเอเจนซี่ในการกลับมาทุ่มงบโฆษณาอีกครั้ง โดยเฉพาะเม็ดเงินเฉพาะสื่อโฆษณานอกบ้านที่เติบโตโดดเด่น ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 9.8 พันล้านบาท เติบโตกว่า 38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำ

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 4 มองว่าการเติบโตยังมีต่อ แม้อัตราการใช้สื่อของ PLANB จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 50-55% ในเดือน ก.ค.-ส.ค.65 หลังเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ตามในเดือน ก.ย. เห็นการฟื้นตัวของอัตราการใช้สื่อที่ระดับ 65% สาเหตุหลักเกิดจากเอเจนซี่ประเภท Luxury Brand หรือสินค้าฟุ่มเฟือย หันมาลงโฆษณากับ PLANB มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนภาพผลกระทบจากเงินเฟ้อที่ส่งผลต่อประชากรเพียงบางกลุ่ม ประกอบกับการเตรียมแคมเปญและจัดเตรียมงบโฆษณาสำหรับงวดไตรมาสที่ 4 ของปี 2565

ซึ่งถือเป็น High Season ของกลุ่มสื่อโฆษณา ขณะที่อัตราการใช้สื่อ ล่าสุดเดือน ต.ค. 65 อยู่ที่ราว 62% ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี (เท่ากับค่าเฉลี่ยในไตรมาสนี้) โดยฝ่ายวิจัยคาดในช่วงเดือนที่เหลือของปีน่าจะเห็นการไต่ระดับขึ้นของอัตราการใช้สื่อหนุนให้ลูกค้าในหลากหลายกลุ่มกลับมาใช้สื่อของ PLANB ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพียงเท่านั้น โดยในปี 2565 นี้ PLANB ยังคงเป้าความสามารถในการผลิตสื่อ (Media Capacity) อยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท และอัตราการใช้สื่อเฉลี่ยที่ 60%

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยปรับประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้น 9% จาก 771 ล้านบาทมาอยู่ที่ 841 ล้านบาท โดยปรับสมมติฐานปี 2566 ปรับ อัตราการใช้สื่อ ขึ้นจากเดิม 62% มาอยู่ที่ 64% สะท้อนภาพการฟื้นตัวของอัตราการใช้สื่อที่ดีกว่าคาด และปรับ Gross Margin เฉลี่ยขึ้นเล็กน้อยจากเดิม 31.5% มาอยู่ที่ 32.5% สะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนในระยะยาวที่ดีขึ้นหลังได้ป้ายจาก AQUA เข้ามา การยกเลิกป้ายในบาง Location ของพื้นที่ที่เกิดการทับซ้อน การปรับ Package Size ให้มีความหลากหลายและขายได้ง่ายมากขึ้น

ภายหลังปรับประมาณการ คาดกำไรปี 2566 จะกลับมาเติบโต 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่เป็นขาลง การกลับมาใช้สื่อของลูกค้าในทุกประเภทสินค้า หนุนรายได้โฆษณาเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่รายได้ธุรกิจ Engagement Marketing ยังได้สตอรี่เข้ามาเสริมต่อเนื่อง ที่ผ่านมาธุรกิจมวยภายใต้ RWS (Rajadamnern World Series) ที่ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด จากศึกใหญ่ระหว่าง บัวขาว กับ โคตะ ที่มีผู้ชมจำนวนมาก ประกอบกับการเช่าสิทธิป้ายใน Times Square (New York) น่าจะสร้างความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อราคาหุ้นได้