GULF และ INTUCH ปิดบวกรับข่าวขายไทยคม นักวิเคราะห์เชื่อ ดีลผ่านฉลุย

หุ้น GULF และ INTUCH ควงคู่บวก รับข่าวดีลขาย ไทยคม บล.กรุงศรี มองทำเทนเดอร์อาจยาก เพราะราคาต่ำกระดาน รอดูแผนธุรกิจก่อนปรับมุมมอง ลุ้นจ่ายปันผลพิเศษ
ความเคลื่อนไหวของหุ้น INTUCH หรือ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) GULF มีการซื้อขายอย่างคึกคัก หลังมีการรายงานการเข้าซื้อขายหุ้นของ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ที่จำนวนทั้งสิ้น 450,870,934 หุ้น หรือคิดเป็น 41.13 % ของหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดในราคา 9.92 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 4,472.64 ล้านบาท  และเตรียมทำเทนเดอร์ในราคาเดียวกัน

โดย INTUCH ปิดการซื้อขาย ที่ 73.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.90 % GULF ปิดการซื้อขายที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.94 % ขณะที่ THCOM ปิดการซื้อขายที่ 11.40 บาท ลดลง 7.32 %

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้า ประเมินว่า GULF ประกาศเข้าซื้อหุ้น THCOM 41.13 % จาก INTUCH โดยใช้เงินลงทุนสุทธิที่น้อยเพียง 2.4 พันล้านบาท GULF มองว่ามีโอกาสพัฒนาธุรกิจได้หลายรูปแบบและต่อยอยไปสู่ธุรกิจ New Space ผ่าน THCOM

บล.กรุงศรี ประเมินว่า GULF เข้าซื้อหุ้น 41 % ของ THCOM จาก INTUCH ที่ราคา 9.92 บาทต่อหุ้น ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับราคาตลาด ทำให้เราเชื่อว่า GULF จะซื้อหุ้น THCOM จาก INTUCH สำเร็จ เพราะ GULF เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ INTUCH ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 59 % ที่บริษัทต้องทำ tender offer อาจจะยากเพราะราคาเสนอซื้อค่อนข้างต่ำ ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้น THCOM อยู่สูงกว่าราคาเป้าหมายของเราที่ 8.50 บาท และสูงกว่าราคาที่ GULF เข้าไปซื้อที่ 9.92 บาท

และถึงที่สุดแล้ว GULF อาจจะถือหุ้นเพียง 41 % ใน THCOM เท่านั้น ราคา 9.92 บาทต่อหุ้นที่ GULF เข้าไปซื้อเท่ากับมูลค่าหุ้นทางบัญชี ของ THCOM เมื่อสิ้นไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา ทั้งนี้ บล.กรุงศรี จะกลับมาทบทวนประมาณการ และคำแนะนำของเราอีกครั้งเมื่อเราได้ทราบแนวทางธุรกิจที่ชัดเจนของ THCOM หลังจากที่ GULF เข้ามากุมอำนาจบริหารแล้ว

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) รายงานว่า การที่ INTUCH ประกาศจำหน่ายหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ใน THCOM ซึ่งมีทั้งสิ้น 450.8 ล้านหุ้น ที่ราคา 9.92 บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 4.47 พันล้านบาท ส่งผลสำคัญต่อมุมมองนักลงทุน โดยในจุดดังกล่าวอาจเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อโอกาสที่ INTUCH จะจ่ายปันผลพิเศษ

บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย บริษัทมีผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 762 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 17.7% จาก 925 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักเกิดจากการลดลงของลูกค้าบรอดคาสต์ในประเทศ ประกอบกับการขายโครงการซึ่งเป็นการให้บริการแบบครั้งคราว (occasional service) ที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3/2564

ในช่วงไตรมาสที่ 3/2565 บริษัทมีกำไรจากธุรกิจหลัก อยู่ที่ 190 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 950.1 % ที่มีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างต้นทุนจากการสิ้นสุดลงของสัมปทานดาวเทียม ซึ่งทำให้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาดาวเทียมและต้นทุนค่าสัมปทานลดลง

บริษัทมีผลกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2565 จำนวน 121 ล้านบาท ลดลง 17.0% จาก 146 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการบันทึกการด้อยค่าของดาวเทียม 259 ล้านบาท และแนวโน้มอุตสาหกรรมด้านความต้องการบริการบรอดคาสต์โดยทั่วไปที่ลดลง ประกอบกับความล่าช้า ในการขอใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมในต่างประเทศจากกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงซึ่งทำให้การขายช่องสัญญาณ ล่าช้ากว่าแผนธุรกิจเดิม