ADVANC แจ้งกำไร 9 เดือนแรก 18,648 ล้านบาท อินเทอร์เน็ตบ้านเติบโตแข็งแกร่ง

ADVANC โชว์กำไร 9 เดือนแรกปี 65 ที่ 18,648 ล้านบาท อินเทอร์เน็ตบ้าน และลูกค้าองค์กร ยังขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมโชว์ผู้ใช้โทรศัพท์ปัจจุบัน 45.6 ล้านเลขหมาย

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ได้รายงานผลประกอบการกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดย 9 เดือนแรกของปี 2565 โดยมีรายได้จากการให้บริการหลักอยู่ที่ 99,193 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากการเติบโตในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร การแข่งขันที่เข้มข้นและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ยังคงเป็นแรงกดดันให้รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านยังคงเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตของรายได้จากการขยายโครงข่ายอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มีพื้นที่คลอบคลุมอย่างทั่วถึง และความพยายามในการเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ โดยการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ และการรวมกลุ่มกับบริการอื่นๆ โดยธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในส่วนของรายได้จากธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรและอื่นๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล (digital transformation) ทำให้ความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในบริการคลาวด์และไอซีทีโซลูชั่น ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 21%
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 EBITDA ปรับตัวลดลง 2.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อ และการแข่งขันที่กระทบต่อการเติบโตของรายได้ของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ รวมถึงแรงกดดันจากต้นทุนโครงข่าย และค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 18,648 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 7.0% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการรับรู้รายการพิเศษเป็นรายได้อื่นในปีที่แล้ว

ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 46,234 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากยอดขายเครื่องโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเปิดตัว iPhone14 เร็วกว่าปีที่แล้วหนึ่งไตรมาส และการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน
กำไรสุทธิตามรายงาน อยู่ที่ 6,032 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 5.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจาก EBITDA ที่ต่ำลงในไตรมาส 3/2565 ชดเชยด้วยผลขาดทุนจากอัตรา แลกเปลี่ยนที่ยังไม่รับรู้ และต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง

ในไตรมาส 3/2565 จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 45.6 ล้านเลขหมาย ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นสุทธิ 157,300 เลขหมาย โดยระบบเติมเงินมีจำนวนผู้ใช้บริการลดลง 138,800 เลขหมาย หรือลดลง 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัว ลงโดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อต่ำถึงปานกลาง และเกิดจากยอดยกเลิกซิมการ์ดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในไตรมาสก่อน
ส่วนระบบรายเดือนมีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 296,100 เลขหมาย ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากการขายโทรศัพท์มือถือพ่วงไปกับแพ็กเกจ 5G โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ภาพรวม ARPU เฉลี่ยปรับตัวลดลง 1.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 212 บาท เกิดจากปัจจัยอัตราเงินเฟ้อ และสภาวะการแข่งขันที่มากดดันพฤติกรรม ผู้บริโภค ณ สิ้นไตรมาส 3/2565
ในด้านจำนวนผู้ใช้บริการ 5G ปรับตัวเพิ่มขึ้น 41% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 5.5 ล้านเลขหมาย จากการพยายาม สนับสนุนการใช้งาน 5G และโทรศัพท์ที่รองรับ 5G มีราคาต่ำลง จำนวนผู้ใช้บริการเอไอเอสไฟเบอร์ยังคงเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 2.1 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นสุทธิ 114,500 ราย ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการขยายการให้บริการครอบคลุมไปยังพื้นที่ชานเมืองมากขึ้น ตลอดจนความพยายามควบคุมอัตราการยกเลิกการใช้บริการให้น้อยลงด้วย กลยุทธ์การเสนอแพ็กเกจการให้บริการที่มีความหลากหลายมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันยังคงตัวอยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริการหลายเจ้ามีการเสนอแพ็กเกจราคาต่ำ เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้า จึงเป็นสาเหตุหลักในการกดดัน ARPU ให้อยู่ในแนวโน้มขาลง ซี่งลงมาอยู่ที่ 418 บาท ปรับตัวลดลง 3.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน