ตลาดหุ้นเดือนพฤศจิกายน

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 พ.ย.65 ปิดที่ 1,625.73 จุด เพิ่มขึ้น 16.97 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 68,402.20 ล้านบาท หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด AAI ปิด 9 บาท เพิ่มขึ้น 3.45 บาท

PTTEP ปิด 187 บาท บวก 5.50 บาท SCC ปิด 337 บาท บวก 13 บาท, PTT ปิด 36 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, DELTA ปิด 604 บาท บวก 24 บาท

บล.เอเซีย พลัส จำกัด มองแนวโน้มหุ้น เดือน พ.ย.65 แม้มีความกังวล Recession ในสหรัฐฯ แต่เศรษฐกิจไทยฟื้นเด่นกว่าหลายประเทศ และช่วงที่เหลือของปีนี้ หวังแพ็กเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจ

ด้าน Valuation ตลาดหุ้นไทย ยังดูน่าสนใจ และอยู่ในโซนสะสมหุ้น ทั้งในมุม P/E ที่อยู่ 17 เท่ากว่าๆ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 19.5 เท่า และ PBV ต่ำเพียง 1.5 เท่า ลงมาในบริเวณใกล้กับ-1SD ที่ 1.66 เท่า เป็นจังหวะในการสะสมหุ้นอีกครั้งได้ โดยคงเป้าหมายดัชนีปลายปีนี้ที่ 1,730 จุด

ขณะที่คาดว่า Fund Flow ยังมีโอกาสไหลเข้าหุ้นไทยเพิ่มในช่วงที่เหลือของปี โดยสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยของต่างชาติยังอยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นถึง Downside ในการขายที่จำกัด และมีโอกาสกลับมาซื้อสุทธิเพิ่ม ทำให้ SET Index มีโอกาสขยับขึ้นได้

กลยุทธ์ลงทุนเดือน พ.ย. แนะทยอยสะสม 7 หุ้น Domestic Consumption เด่น คือ CBG, CRC, CK, BBL, PLANB และ GULF หุ้นที่ลงมาลึกกำไร ไตรมาส 4/65 ฟื้น คือ SCGP ส่วนหุ้นที่ต้องระมัดระวังการลงทุนเพราะ Valuation เริ่มจำกัด คือ PTTGC และ TRUE!!

ส่วน บล.ทรีนีตี้ คาดหุ้นไทยแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,560-1,660 จุด โดยในช่วงแรกของเดือนคาดว่าบรรยากาศการลงทุนน่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดี จากการที่ไม่มีข่าวร้ายใหม่เข้ามากระทบ พร้อมทั้ง Fund flow มีสัญญาณบวกต่อเนื่อง

แนะกลยุทธ์ถือครองหุ้นในส่วนเดิมซึ่งมีต้นทุนดัชนีอยู่ราว 1,590 จุด โดยเน้นโฟกัสไปที่กลุ่ม Domestic cyclical ที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นตัว และอาจมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงถัดไป ทั้งกลุ่มธนาคารหลักทรัพย์ ประกันภัย สื่อสาร และสื่อและสิ่งพิมพ์

โดยมี Top pick 10 หุ้นเดิม ได้แก่ KBANK-AEONTS- TIDLOR-TLI-ADVANC-DTAC-ONEE-PLANB-RATCH-COM7.

อินเด็กซ์ 51