BGRIM เผยไตรมาส 2/65 รายได้แตะ 14,676 ล้าน กำไรสุทธิ 147 ล้านบาท

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

BGRIM เผยไตรมาส 2/65 รายได้แตะ 14,676 ล้าน กำไรสุทธิ 147 ล้านบาท

Date Time: 11 ส.ค. 2565 19:44 น.

Video

ล้วงไส้ TEMU อีคอมเมิร์ซจีน บุกไทย ทำไมอาจสร้างวิบากกรรมกว่าที่คิด ? | Digital Frontiers

Summary

  • BGRIM เผยไตรมาส 2/65 รายได้แตะ 14,676 ล้าน กำไรสุทธิอยู่ที่ 147 ล้านบาท หลังต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น พร้อมลุยขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรม เดินหน้าเพิ่มสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับพันธมิตรชั้นนำทั้

Latest


BGRIM เผยไตรมาส 2/65 รายได้แตะ 14,676 ล้าน กำไรสุทธิอยู่ที่ 147 ล้านบาท หลังต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น พร้อมลุยขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรม เดินหน้าเพิ่มสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 65 ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 2/65 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 14,676 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยได้รับปัจจัยบวกจาก

1. ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยให้แก่ กฟผ. เพิ่มขึ้น

2. ปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (Industrial User: IU) เติบโตอย่างต่อเนื่อง 5.1% จากทั้งลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่จำนวน 32.3 เมกะวัตต์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 65

3. การเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว 

4. การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิต 16 เมกะวัตต์ ในไทย เมื่อเดือนส.ค. 64

ด้านกำไรสุทธิจากการดำเนินงานส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 147 ล้านบาท ลดลง 85.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้น 76.6% ของราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม โดยคิดเป็น 20.7% ของรายได้รวม แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 332.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง 4.6% และผลบวกจากการปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าตามสูตร หรือ ค่า Ft

ทั้งนี้ จากค่าเงินบาทที่อ่อนตัวอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้มีการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสดและเป็นการบันทึกตามมาตรฐานบัญชี ทำให้บริษัทบันทึกผลขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้

"กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้า IU ในประเทศช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 5.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 1,729 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ด้วยการเติบโตจากทั้งลูกค้ารายเดิม และลูกค้ารายใหม่ โดยในไตรมาสที่ 2 ปี 2565 มีการเชื่อมเข้าระบบตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของลูกค้ารายใหม่จำนวน 9.3 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปีที่ไม่น้อยกว่า 55 เมกะวัตต์"

สำหรับแนวทางการบริหารจัดการต้นทุน จากราคาก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น โดย บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายจะเริ่มนำเข้า LNG ในต้นปี 2566 เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการต้นทุนก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะใช้สำหรับกลุ่มลูกค้า IU เป็นหลัก ทั้งสำหรับโครงการโรงไฟฟ้า SPP ใหม่เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม และโรงไฟฟ้า SPP โรงอื่น ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญา Terminal Usage Agreement กับ PTT LNG เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ การเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและประสิทธิภาพสูง การขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และการควบคุมค่าใช้จ่าย จะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วงเวลาที่เหลือของปี และตลอดช่วง 12 เดือนข้างหน้าของบริษัทฯ

นอกจากนี้ ยังได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าตามสูตร หรือ ค่า Ft ทุกๆ 4 เดือน โดยในเดือนก.ย. - ธ.ค. 65 กกพ. ได้ประกาศปรับขึ้นอีก 0.6866 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็น 0.9343 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปรับเพิ่มของราคาพลังงานโลก

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมภายใต้สมมติฐานสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการเตรียมความพร้อมและความคล่องตัวในการบริหารด้านการเงิน รองรับการเติบโตของธุรกิจ และโอกาสในการลงทุนที่จะเข้ามาในอนาคต บี.กริม เพาเวอร์ มีเงินสดในมือกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 2/65 ด้วยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินรวมที่ 1.8 เท่า

ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่ 0.03 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2565 คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 43% ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 25 ส.ค. 65 และวันที่จ่ายปันผล 9 ก.ย. 65


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ