คาด "หุ้นไทยประกันชีวิต" เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก 25 ก.ค. 65 หลังนักลงทุนสถาบัน และรายย่อยจองซื้อ IPO เพียบ
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 65 นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการสำรวจความต้องการจองซื้อหุ้น หรือ Bookbuilding สำหรับนักลงทุนสถาบันทั่วโลก และการจองซื้อหุ้นของนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 65 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ หุ้นไทยประกันชีวิตได้รับกระแสการตอบรับที่ดีเยี่ยมและความสนใจในการลงทุนเป็นจำนวนมาก แม้ในสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ด้านตลาดทุนที่ยังคงมีความผันผวนเป็นอย่างมาก
"ผมและทีมผู้บริหารของไทยประกันชีวิตมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะต่อยอดความสำเร็จทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของนักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ตลอดจนมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ไทยประกันชีวิตจะเป็นบริษัทประกันชีวิตที่สามารถสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับเศรษฐกิจและสังคมไทย ตลอดจนอยู่เคียงข้างดูแลลูกค้าและคนไทยอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ จากกระแสตอบรับและความสนใจอันล้นหลามของนักลงทุนแต่ละประเภท ไทยประกันชีวิตได้จัดสรรหุ้นจำนวนรวมทั้งสิ้น 2,316.7 ล้านหุ้น (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน) คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวมทั้งสิ้น 37,067 ล้านบาท และคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ (Market Capitalization) ประมาณ 183,200 ล้านบาท ที่ราคาเสนอขาย 16.00 บาทต่อหุ้น
โดยมีสัดส่วนเสนอขายระหว่างนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 69.9% และ 30.1% ตามลำดับ และสัดส่วนระหว่างนักลงทุนในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60.5% และ 39.5% ตามลำดับ จากการทำ IPO ในครั้งนี้
สำหรับเงินที่ไทยประกันชีวิตได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้รวมประมาณ 13,600 ล้านบาท ไทยประกันชีวิตจะนำไปต่อยอดธุรกิจ นำเสนอคุณค่าที่แตกต่าง และเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ได้แก่
1. การลงทุนเพื่อพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) และการทำการตลาดและการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยไทยประกันชีวิตจะมุ่งเน้นขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแบบลักษณะเฉพาะบุคคล (Personalization) เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
2. การรักษาตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตของประเทศไทยด้วยการเสริมสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่มีอยู่ของไทยประกันชีวิตให้เข้มแข็งมากขึ้น พร้อมไปกับการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านออนไลน์ รวมถึงการยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยการนำเสนอคุณค่าที่แตกต่าง การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของช่องทางจัดจำหน่ายผ่านพันธมิตรและเพิ่มคู่ค้าในการจัดจำหน่าย ประมาณ 5,400 ล้านบาท
3. การเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเงินทุนให้มากยิ่งขึ้น และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและวัตถุประสงค์อื่นๆ ในอนาคต ประมาณ 6,200 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจในหุ้น TLI แต่มิได้จองซื้อ ณ IPO สามารถซื้อหุ้น TLI ได้ในตลาดรอง โดยคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นวันแรก 25 ก.ค. 65 พร้อมกับเริ่มทำการรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้น (Stabilization Activity) ในช่วง 30 วันแรกหลังหุ้นของ TLI เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ.