แมลงเม่าระส่ำหุ้นไทยดิ่ง 32.56 จุด

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ว่านักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก กดดัชนีปรับตัวลงรุนแรงทันทีที่เปิดตลาด และปรับตัวลงต่อเนื่อง ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯและเอเชีย หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ของสหรัฐฯที่ออกมาสูงกว่าที่คาด โดยเพิ่มขึ้น 8.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่า Consensus ที่คาดไว้ที่ 8.3% ทำให้ตลาดกังวลถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในอัตราเร่ง คือปรับขึ้นเร็วและแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,600.06 จุด ลดลง 32.56 จุด มูลค่าซื้อขาย 73,466.76 ล้านบาท

บล.เอเซียพลัส ชี้ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.ของสหรัฐฯที่ออกมาสูงมากถึง 8.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (YoY) ทำให้ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟดกลับมา และกังวลว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยถึงครั้งละ 0.75% เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดเห็นความน่าจะเป็น (36.9%)ที่ดอกเบี้ยนโยบายสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ 3.25-3.5% ทำให้ตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลกปรับตัวลงแรง สร้างแรงกดดันมาถึงตลาดหุ้นไทย ทำให้แรงขายในตลาดหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติเริ่มหนักขึ้น จากเดือน มิ.ย.นี้ เป็นช่วงที่เฟดเริ่มใช้นโยบายการเงินตึงตัวแบบ New Normal ทั้งการขึ้นดอกเบี้ยและลดขนาดงบดุล เป็นปัจจัยกดดันเงินลงทุนของต่างชาติ ให้ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย ล่าสุดเดือน มิ.ย.นี้ขายสุทธิ 9,300 ล้านบาท

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดเก็บภาษีการขายหุ้น ว่า ได้นำรายละเอียดเสนอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อย ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.82 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ 34.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ และมีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่า ในโซน 34.80-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ.