ttb โชว์กำไรไตรมาส 4/65 แตะ 2,799 ล้าน รวมกำไรทั้งปีที่ 10,474 ล้าน

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ttb โชว์กำไรไตรมาส 4/65 แตะ 2,799 ล้าน รวมกำไรทั้งปีที่ 10,474 ล้าน

Date Time: 20 ม.ค. 2565 16:30 น.

Video

เศรษฐกิจไทย เสี่ยงวิกฤติหนักแค่ไหน เมื่อต้องเปลี่ยนนายกฯ | Money Issue

Summary

  • ธนาคารทหารไทยธนชาต โชว์กำไรไตรมาส 4/65 แตะ 2,799 ล้าน รวมกำไรทั้งปีที่ 10,474 ล้าน เพิ่มขึ้น 4% จากปี 63 พร้อมตั้งเป้าปี 65 ดันแผนสินเชื่อเต็มกำลัง

Latest


ธนาคารทหารไทยธนชาต โชว์กำไรไตรมาส 4/65 แตะ 2,799 ล้าน รวมกำไรทั้งปีที่ 10,474 ล้าน เพิ่มขึ้น 4% จากปี 63 พร้อมตั้งเป้าปี 65 ดันแผนสินเชื่อเต็มกำลัง

วันที่ 20 ม.ค. 65 นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ ttb กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 4 และรอบ 12 เดือน ปี 2564 โดยธนาคารมีกำไรสุทธิ 2,799 ล้านบาท ในไตรมาส 4/64 เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาส 3/64 เป็นผลจากรายได้ที่ปรับตัวดีขึ้น และค่าใช้จ่ายตั้งสำรองฯ ที่ลดลง เนื่องจากสามารถลดอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพลงมาอยู่ที่ 2.81% จาก 2.98% ในไตรมาส 3 ปี 2564

ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาส 4/63 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 127% จากค่าใช้จ่ายตั้งสำรองฯ ที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/64 ซึ่งธนาคารได้ตั้งสำรองฯ สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อเตรียมการล่วงหน้าสำหรับปี 2564 แต่โดยรวมทั้งปี ธนาคารยังคงตั้งสำรองฯ ในระดับสูงที่ 21,514 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ 24,831 ล้านบาท ในปี 63 ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 64 อยู่ที่ 10,474 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนหน้า

สำหรับปี 64 แม้จะมีความท้าทายจากสถานการณ์โควิดที่ยืดเยื้อ แต่ธนาคารสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ตามแผน ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายการรวมธนาคาร ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ได้ตามกำหนด หรือเป้าหมายด้านการดำเนินงาน

ธนาคารยังคงยึดนโยบายการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง ไม่เร่งขยายสินเชื่อ ขณะเดียวกันก็เน้นปรับปรุงคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ โดยการลดยอดสินเชื่อที่มีคุณภาพค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งนี้ก็เพื่อคงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงินไว้สร้างการเติบโตเมื่อเศรษฐกิจเอื้ออำนวย

จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ธนาคารจึงเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยขยายฐานเงินฝากเพิ่มขึ้นได้ 1.1% และโตสินเชื่อได้ 0.9% จากไตรมาส 3 ปี 2564 ทั้งนี้การเติบโตสินเชื่อยังคงเป็นไปตามนโยบายระมัดระวัง และเน้นสินเชื่อที่มีหลักประกันเป็นหลัก ได้แก่ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อเช่าซื้อ

ด้านรายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเช่นกันที่ 4.4% จากไตรมาส 3 ปี 2564 จากทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ขณะที่ด้านค่าใช้จ่ายนั้น ธนาคารสามารถรับรู้ผลประโยชน์ด้านต้นทุนจากการรวมกิจการได้ตามแผน และรักษาวินัยด้านค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้เป็นไปตามกรอบเป้าหมาย

ทั้งนี้แม้การดำเนินนโยบายระมัดระวังจะส่งผลให้ภาพรวมสินเชื่อปี 2564 ลดลง 1.5% เมื่อเทียบกับปี 2563 แต่ในเชิงคุณภาพนั้นถือได้ว่าดีขึ้น บ่งบอกได้จากผลรวมของสินเชื่อชั้นที่ 2 หรือสินเชื่อที่มีความเสี่ยงด้านเครดิต และสินเชื่อชั้น 3 หรือสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ลดลงกว่า 7 พันล้านบาท หรือประมาณ 4.4% จากสิ้นปีที่แล้ว ซึ่งท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่กลับไปสู่ภาวะปกติ ธนาคารก็จะยังคงให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ต่อไป

สำหรับปี 2565 นั้น ธนาคารตั้งเป้ากลับมาเติบโตทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝาก แต่ก็แน่นอนว่าจะเป็นไปอย่างรอบคอบ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งหลังการรวมธนาคารและระบบต่าง ๆ เป็นหนึ่งเดียวอย่างสมบูรณ์แล้ว ในปีนี้ธนาคารก็พร้อมที่จะเปิดตัวและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยพัฒนาให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการที่ครบวงจรได้ง่ายและสะดวกขึ้น เพื่อสร้างชีวิตการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต พร้อมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลต่อไป.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ