มุมมอง บลจ.วรรณ!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 5 ม.ค.65 ปิดที่ 1,676.79 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 93,126.43 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,261.07 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 146 บาท บวก 0.50 บาท, EA ปิด 99.25 บาท บวก 2 บาท, PTTEP ปิด 120.50 บาท บวก 1 บาท, PTT ปิด 39 บาท บวก 1 บาท, IVL ปิด 45.75 บาท บวก 2.25 บาท

“พจน์ หะริณสุต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ มองภาพเศรษฐกิจและการลงทุนหุ้นไทยปีนี้ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐรวมถึงการกระจายวัคซีน Covid–19 อย่างทั่วถึงมากขึ้น ทำให้มองว่าโอกาสที่รัฐบาลจะกลับไป Lock down อีกครั้งมีน้อย คาดว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวที่ 3–5%

“ปัจจัยหลักที่ยังให้น้ำหนักคือแนวโน้มเงินเฟ้อต่างประเทศมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลกและกระแสเงินทุนต่างชาติ ถ้าสหรัฐฯ ยุโรป ปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าตลาด

คาดการณ์จะกระทบต่อหุ้นไทยในครึ่งแรกของปีนี้ ในทางกลับกันถ้าเฟดปรับขึ้น 3 ครั้งในปีนี้ ทิศทางการเคลื่อนไหวของดัชนีจะอยู่ลักษณะ Sideway up”

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยเพราะกลุ่มพลังงานมีสัดส่วนสูงในดัชนีหุ้นไทยและเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของ Covid-19 กระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ส่งผลต่อการพิจารณาปรับกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC

ฟันธงหุ้นไทยปีนี้ผันผวน แต่มี downside risk จำกัด ขณะที่ upside ขึ้นอยู่กับความยั่งยืนในการเปิดเมืองและความเชื่อมั่นของเอกชน ขณะที่ Valuation หุ้นไทยตึงตัวจาก Forward PE ปี 65 อยู่ที่ 17 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ 14.38 เท่า แต่อัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ในเกณฑ์ดี เฉลี่ยอยู่ที่ 2.72% เทียบกับค่าเฉลี่ยภูมิภาค 2.60%

มองเป้าหมายดัชนีปีนี้ อยู่ที่ 1,770 จุด คาด EPS เพิ่มขึ้น 10.7% จากปี 64 แนะลงทุนหุ้นที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยแนะนำกองทุนเปิด วรรณ เซ็ท ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน (ONE–SETHD)!!

อินเด็กซ์ 51