อยากเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันปตท. คาเฟ่ อเมซอน จองซื้อ OR ราคาเสนอขาย 16-18 บาท

จองซื้อหุ้น ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ OR ที่เคาะราคา IPO ที่ 16-18 บาท หลังเปิดโอกาสให้รายย่อยร่วมเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันปตท. คาเฟ่ อเมซอน ขยายธุรกิจให้เติบโตในอนาคต

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64 นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวว่า ธุรกิจของ OR ครอบคลุมและเกี่ยวข้องกับน้ำมันตั้งแต่ต้นทางยังปลายทางทั้งในประเทศ และต่างประเทศดังนี้

1. กลุ่มธุรกิจน้ำมัน

การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบค้าปลีก OR จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และก๊าซปิโตรเลียมเหลว และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นให้แก่ผู้ใช้ยานยนต์และลูกค้ารายย่อย

- ธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่มีมากกว่า 1,900 สาขาทั่วประเทศไทย มีลูกค้าจนมีลูกค้าในตลาดพาณิชย์ทั้งหมดกว่า 2,600 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค.62)

- ธุรกิจน้ำมันครอบคลุมทั้งภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม โดยผลิตภัณฑ์หลักคือ น้ำมันเตา ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ยางมะตอย เมทานอล โพรเพน (C3) และบิวเทน (C4) ฯลฯ

- สำหรับภาคครัวเรือน OR จำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวผ่านเครือข่ายร้านค้าก๊าซหุงต้ม ภายใต้แบรนด์ ก๊าซหุงต้ม ปตท.

- ธุรกิจหล่อลื่น ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์หล่อลื่น จาระบี และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องผ่านช่องทาง B2B และ B2C ภายใต้แบรนด์ PTT Lubricants ที่ส่งออกไปกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

- ธุรกิจศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ให้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นและระบบของเหลวในรถยนต์ ซ่อมบำรุงรักษาแบบเบา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์หล่อลื่นให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ โดยมีแผนที่จะเพิ่มการให้บริการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้าเบื้องต้นอีกด้วย

- กลุ่มธุรกิจน้ำมันทั้ง 2 กลุ่มของ OR มีธุรกิจบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมแบบครบวงจรตลอดทั้งซัพพลายเชน มีคลังรับ เก็บ จ่าย ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกว่า 70 แห่งทั้งในและต่างประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย.63) 

2. กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ

- คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) เป็นธุรกิจที่ โออาร์ สร้างและพัฒนาขึ้นจนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค และปัจจุบันนับเป็นร้านกาแฟที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทยกว่า 3,100 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย.63)

คาเฟ่ อเมซอน เป็นแบรนด์ร้านกาแฟที่มีจำนวนสาขามากเป็นอันดับ 6 ของโลก (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธ.ค. 62 โดย Euromonitor) โดยมีสถาบันฝึกอบรม Amazon Inspiring Campus (AICA) เพื่อเป็นสถานที่ฝึกอบรมสำหรับ SME ที่ร่วมทำธุรกิจกับ โออาร์ ในฐานะแฟรนไชส์ Café Amazon เพื่อให้สินค้าและบริการเป็นไปในมาตรฐานเดียวกัน

- ร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ จิฟฟี่ หรือ Jiffy ที่ OR ป็นเจ้าของ และ แบรนด์ 7-Eleven ตามเงื่อนไขของสัญญาหลักความร่วมมือแต่เพียงผู้เดียวกับซีพีออลล์

- เท็กซัส ชิคเก้น หรือ Texas Chicken โออาร์ ยังได้รับสิทธิอนุญาตแต่ผู้เดียวในประเทศไทยในการดำเนินธุรกิจ

- สิทธิมาสเตอร์แฟรนไชส์ของธุรกิจอาหารแบรนด์ ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ หรือ Hua Seng Hong Dim Sum

- โออาร์ ยังดำเนินธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่ เช่น จุดแวะพักระหว่างการเดินทาง (Rest Area)

3. กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ

- ดำเนินการธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ ใน 10 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม จีน สิงคโปร์ โอมาน ญี่ปุ่น และมาเลเซีย

นางสาวราชสุดา รังสิยากูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลยุทธ์องค์กร นวัตกรรมและความยั่งยืน OR กล่าวว่า เราได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายธุรกิจไว้ดังนี้

- ขยาย PTT Station จากปี 2563 ที่มีอยู่ 1,968 แห่ง เป็น 2,500 แห่งในปี 2568

- ขยายศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto, ธุรกิจถังก๊าซหุงต้ม

- ขยายสาขาคาเฟ่ อเมซอน, เท็กซัสชิคเก้น, ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ ทั้งในและนอกสาขานอก PTT Station เพิ่มมูลค่าการซื้อต่อครั้ง และเพิ่มทางเลือกผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค

- สร้างโรงงานเบเกอรี่ โรงงานผงผสมเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจกาแฟอย่างครบวงจร

- สร้างศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติ

- ธุรกิจต่างประเทศ มีแผนเปิดสถานีบริการน้ำมันแห่งใหม่ในต่างประเทศ และยังมีแผนขยายเครือข่ายร้านค้าปลีกในต่างประเทศ

"การ Joint Venture กับ Flash Express บริษัท พีเบอร์รี่ ไทย จำกัด หรือ Pacamara จะทำให้ OR มีศักยภาพที่เข้มแข็งขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจ Non Oil ขณะเดียวกันเรามองว่า EV จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของ PTT Station ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งเรากำลังเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้รถ EV จึงเป็นที่มาของการให้บริการทดลงชาร์จไฟฟ้าที่ปั๊มปตท. 25 แห่ง เพื่อเก็บข้อมูลและออกแบบให้บริการตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรา" 

นายพิจินต์ อภิวันทนาพร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารการเงิน OR กล่าวว่า การระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้ในการขยายเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน การขยายธุรกิจสำหรับตลาดพาณิชย์ การลงทุนในคลังเก็บผลิตภัณฑ์และศูนย์กระจายสินค้า การขยายเครือข่ายร้านค้าปลีก การลงทุนในธุรกิจต่างประเทศ รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

โดยมีบล.บัวหลวง บล.ฟินันซ่า จำกัด บล.กสิกรไทย บล.เกียรตินาคินภัทร และบล.ทิสโก้ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และบริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 30.0 ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายและบริษัทฯ กำหนดไว้ในแต่ละปี

สำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก หรือ IPO ที่ช่วงราคาเสนอขาย 16.00 – 18.00 บาทต่อหุ้น โดยผู้จองซื้อแบ่งได้ดังนี้ 

- ผู้จองซื้อรายย่อย สามารถจองซื้อได้ที่ธนาคารกรุงเทพ กสิกรไทย และกรุงไทย ที่สำนักงานใหญ่และทุกสาขาทั่วประเทศและผ่านช่องทางออนไลน์ ในวันที่ 24 ม.ค.64 จนถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 2 ก.พ. 64 โดยจัดสรรแบบวิธี Small Lot First เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้รับการกระจายหุ้นอย่างทั่วถึง

- ผู้ถือหุ้น ปตท. เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น สามารถจองซื้อได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในวันที่ 25-28 ม.ค. 64

- คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ OR ในต้นเดือนก.พ. 64 นี้