หุ้นผลกระทบโควิด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หุ้นผลกระทบโควิด

Date Time: 24 ธ.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 ธ.ค.63 ปิดที่ 1,416.02 จุด ลดลง 8.37 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 89,556.24 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 705.58 ล้านบาท หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 40.25 บาท ลบ 1 บาท,

Latest

เปิดพอร์ตหุ้น หมอบุญ วนาสิน จากผู้ก่อ THG เหลืออันดับที่ 11 สู่หมายจับฉ้อโกงกู้เงิน 8 พันล้าน

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 ธ.ค.63 ปิดที่ 1,416.02 จุด ลดลง 8.37 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 89,556.24 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 705.58 ล้านบาท หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 40.25 บาท ลบ 1 บาท, DELTA ปิด 420 บาท บวก 42 บาท, CPF ปิด 26.75 บาท บวก 0.75 บาท, BANPU ปิด 10.80 บาท บวก 0.20 บาท และ CPALL ปิด 58.75 บาท ลบ 1 บาท

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ออกประกาศสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่ 23 ธ.ค.63-4 ม.ค.64 หลังจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น โดย สถานที่ที่ถูกสั่งปิดให้บริการ เช่น สถานศึกษา, โรงภาพยนตร์, คลินิกเสริมความงาม ส่วนห้างสรรพสินค้า อนุญาตให้เปิดเฉพาะซุปเปอร์มาร์เกต ร้านขายยา อาหาร สำหรับร้านอาหารอนุญาตให้เปิดบริการเฉพาะซื้อกลับบ้านเท่านั้น

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการสั่งปิดสถานศึกษา, ตั้งจุดตรวจสกัดคัดกรองโรค เพื่อกันการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว สำหรับห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ให้ตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกาย ลงทะเบียน “ไทยชนะ” ก่อนเข้ารับบริการ

โดย บล.เคทีบีมีมุมมองเป็นลบ ประเมินว่าหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์แต่ละจังหวัดดังนี้ จังหวัดสมุทรสงคราม

คาดว่าส่งผลกระทบต่อ MC (มี 2 สาขา), BEAUTY (มี 1 สาขา) จังหวัดสมุทรปราการ มองว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่ม commerce, ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ เนื่องจากยังอนุญาตให้เปิดบริการได้ แต่หากการระบาดรุนแรงขึ้น (worst case) คาดว่าจะสั่งล็อกดาวน์กลุ่มห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์

เบื้องต้นประเมินหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากมากไปน้อยตามจำนวนสาขา ได้แก่ MC (มี 12 สาขา) BEAUTY (มี 3 สาขา) MAJOR (มี 2 โรงภาพยนตร์) CPN (มี 1 ห้างสรรพสินค้า) CRC (มี 1 ห้างสรรพสินค้า) และ CHG (มี 1 โรงพยาบาล)

กรณีล็อกดาวน์หลายจังหวัดมากขึ้น มองว่าการระบาดโควิด-19 เริ่มเข้าใกล้กรุงเทพฯและขยายสู่จังหวัดอื่นๆมากขึ้นทุกที

กรณี worst case มองว่ามีโอกาสล็อกดาวน์เพิ่มอีกหลายจังหวัด หากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มต่างๆดังนี้ กลุ่มห้างสรรพสินค้า (CRC, CPN, HMPRO, GLOBAL, DOHOME) กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง (CBG, OSP) กลุ่มโรงภาพยนตร์ (MAJOR) ระบบขนส่งมวลชน (BEM, BTS)

ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงบวก ได้แก่ JWD, MEGA, KEX, ADVANC, DTAC, SYNEX และ SIS!!

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ