หาจังหวะเข้าช้อนหุ้นช่วงย่อตัวเพราะโควิด คาดปี 64 SET ทะลุ 1,500 จุด

Investment

Stocks

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หาจังหวะเข้าช้อนหุ้นช่วงย่อตัวเพราะโควิด คาดปี 64 SET ทะลุ 1,500 จุด

Date Time: 22 ธ.ค. 2563 11:35 น.

Video

3 มาตรการใหม่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ คุมหุ้นร้อนผิดปกติ | Money Issue

Summary

  • บล.ทิสโก้แนะอาศัยจังหวะหุ้นย่อรับข่าวโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ช้อนซื้อหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ เชื่อโอกาสระบาดซ้ำในวงกว้างมีน้อย และเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว คาดปีหน้าหุ้นไทยทะลุ 1,500 จุด

บล.ทิสโก้ แนะอาศัยจังหวะหุ้นย่อรับข่าวโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ ช้อนซื้อหุ้นกลุ่มวัฏจักรเศรษฐกิจ เชื่อโอกาสระบาดซ้ำในวงกว้างมีน้อย และเป็นเหตุการณ์ชั่วคราว คาดปีหน้าหุ้นไทยทะลุ 1,500 จุด จากเงินทุนไหลเข้าและกำไร บจ.โต

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ คาดว่าหุ้นที่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยตรงมากที่สุด คือ หุ้นที่มีที่ตั้งและธุรกิจอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร 

จากการตรวจสอบมีทั้งหมด 13 บริษัท เช่น ASIAN, EKH, M-CHAI, VIH เป็นต้น คิดเป็นประมาณ 2% ของจำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้ง SET และ mai ทั้งหมดที่มีจำนวน 808 ขณะที่รายได้และยอดขาย คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.3% และ 0.4% ของผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในช่วง 9 เดือนของปี 2563 

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อเนื่องต่อบรรยากาศการบริโภคและการท่องเที่ยวภายในประเทศ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก เช่น ห้างสรรพสินค้า ได้แก่ CPN, CRC, HMPRO, GLOBAL, BJC, MAKRO และ DOHOME ในพื้นที่ถูกสั่งปิดชั่วคราว

สำหรับร้านสะดวกซื้อ ได้แก่ CPALL เปิดได้ แต่ให้ปิดในช่วงกลางคืน รวมทั้งกลุ่มร้านอาหาร เช่น M, ZEN, AU และ OISHI มีผลกระทบจำกัด เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้โดยรวมเฉลี่ยราว 1-2% เท่านั้น แต่วัตถุดิบอาหารอาจเป็นบวกเล็กน้อย (RBF) จากการกักตุนอาหาร ส่วนกลุ่มเกี่ยวข้องการท่องเที่ยวและเดินทาง เช่น BDMS, BH, AOT, AAV, CENTEL, ERW และ MINT ได้รับผลกระทบเช่นกันจากความระมัดระวังของประชาชนในการเดินทาง

ทั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดว่ารุนแรงยาวนานเพียงใด และกลุ่มแบงก์โดยรวมที่อ่อนไหวกับเศรษฐกิจอาจเผชิญแรงขายระยะสั้นด้วยจากความกังวลเกี่ยวกับ NPL แต่สำหรับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย และหุ้นเทคโนโลยีตามกระแส New Normal จะได้ประโยชน์ อาจมีแรงเก็งกำไรในระยะสั้น เช่น STGT, STA, HANA, KCE, COM7, ILINK, JMT, SIS และ SYNEX รวมทั้งการขายประกัน เช่น TQM และ BLA

อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้ คาดว่า การแพร่ระบาดรอบใหม่ จะกดดันบรรยากาศการลงทุนในระยะสั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องเฝ้าระวังไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย คาด SET Index จะตอบสนองด้วยการปรับตัวลงราว 2-3% ทดสอบแนวรับบริเวณ 1,440-1,450 จุดแต่คาดว่าจะเป็นจังหวะดีในการทยอยสะสม/ซื้อคืน หลังจากที่แนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นทยอยขายช่วง SET Index ขึ้นเข้าใกล้บริเวณ 1,500 จุดมาโดยตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว 

"บล.ทิสโก้มองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์เพียงชั่วคราว และยังให้น้ำหนักน้อยมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 เป็นวงกว้าง จนนำไปสู่การใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ ขณะที่แนวโน้มกระแสเงินทุนไหลเข้า หรือ Fund Flows ปี 64 มองยังเป็นบวกอยู่ จากแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนที่จะเริ่มกลับมาเติบโตอีกครั้งในไตรมาส 1/2564 เป็นต้นไป น่าจะหนุนหุ้นไทยปรับขึ้นได้อีกในระยะถัดไป มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทะลุระดับ 1,500 จุดในต้นปีหน้า เพราะฉะนั้น นักลงทุนระยะกลาง ยังแนะนำถือทนแกว่ง และหาจังหวะสะสมเพิ่ม"
 
ทั้งนี้ บล.ทิสโก้ยังชอบหุ้นกลุ่มวัฏจักร (Cyclicals) จะขึ้นนำตลาดในปีหน้า จากประโยชน์ที่ได้รับจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและวงจรเงินดอลลาร์ อ่อนค่า สำหรับ หุ้น Big Cap แนะนำ BAM, BBL, BDMS และ PTTGC และหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก (Mid-to-Small Cap) แนะนำ AEONTS, TWPC และ WHA  สำหรับหุ้นปันผล แนะนำ INTUCH, KKP, LH, NYT, PROSPECT และ TVO


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ