ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,242.96 จุด ลดลง 21.03 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 54,209.15 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,739.51 ล้านบาท กองทุนในประเทศขายสุทธิหนักถึง 2,114.86 ล้านบาท
หุ้นไทยร่วงลงแดงเถือกตลอดทั้งวัน จากแรงกดดันสถานการณ์การเมืองในประเทศ ทำให้นักลงทุนพากันเทขายเพื่อลดความเสี่ยงจากทั้งกองทุนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ กทม.เพื่อคุมสถานการณ์ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ของวันที่ 15 ต.ค. เป็นต้นไป
บล.ทิสโก้ มองหุ้นไทยกังวลการชุมนุมในประเทศ คาดว่าจะกดดันกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลออก อิงจากการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินจากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองหลายครั้งในอดีต SET Index จะปรับตัวลงเฉลี่ย 2% ในช่วง 3 วันทำการ และต่างชาติมักเป็นผู้ขายสุทธิเฉลี่ยประมาณ 4 พันล้านบาท แต่จากนั้น SET Index จะเริ่มจะฟื้นตัวดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ต่อมา โดยจะเคลื่อนไหวตามสถานการณ์การเมืองภายในประเทศและปัจจัยอื่นที่เข้ามามีผลกระทบ
ด้าน บล.เอเซียพลัสระบุว่า การเมืองเต็มไปด้วยเรื่องที่เกินคาด และยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลโดยตรงต่อการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน และผู้บริโภค สำหรับทิศทางของ SET Index ที่ตอบสนองต่อเนื่องนี้ เชื่อว่าจะยังอยู่ในภาวะที่ผันผวนอยู่ กลยุทธ์การลงทุนยังเน้นไปที่หุ้นรายตัวที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และสามารถจ่ายเงินปันผลได้ดี โดยจะให้น้ำหนักไปที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่พื้นฐานแข็งแกร่ง ยิ่งมีการจ่ายปันผลสูง ยิ่งเป็นเป้าหมายของนักลงทุนในเวลาที่ตลาดผันผวน
ปิดท้าย “วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล” กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ เปิดกลยุทธ์ลงทุนรับภาวะเศรษฐกิจซึมยาวจากพิษ COVID-19 ชี้การจัดสรรเงินลงทุนคือหัวใจสำคัญ แนะจัดพอร์ตให้น้ำหนักลงทุนหุ้นไทย 10-20% เน้นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก พร้อมเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นจีนและเวียดนามในน้ำหนักการลงทุน 10% เริ่มลงทุนตั้งแต่ ต.ค.-พ.ย.นี้
เหตุเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วในแบบ V Shape คาดจีดีพีปีนี้เติบโต 2.7–3% สำหรับเวียดนามและเติบโต 6–8% ในปี 2021 โดยนำเสนอกองทุนหุ้นเวียดนาม Trinity SSI–SCA เป็นทางเลือกลงทุน.
อินเด็กซ์ 51