SPCG โชว์กำไรครึ่งปี 2563 แตะ 1,584 ล้านบาท ลุยขยายฐานธุรกิจเน้นทำโซลาร์ฟาร์มทั้งในไทย และต่างประเทศ ล่าสุดเตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.55 บาทต่อหุ้น
ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทช่วง 6 เดือนของปี 63 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 63 มีกำไรสุทธิกว่า 1,584.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากงวดเดียวกันของปีก่อน และรายได้รวมกว่า 2,629.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีแรกของ SPCG ได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากธุรกิจ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซลาร์ฟาร์ม ทั้ง 36 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 260 เมกะวัตต์
โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 63 มีจำนวนกระแสไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายได้จำนวน 200.3 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นจากปี 62 (199.8 ล้านหน่วย) จำนวน 0.5 ล้านหน่วย หรือคิดเป็น 0.2%
ขณะที่บริษัท โซลาร์ เพาเวอร์ รูฟ จำกัด (SPR) ซึ่งดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา หรือ โซลาร์รูฟ สำหรับบ้านพักอาศัย สำนักงาน อาคารธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดกลางและธุรกิจขนาดใหญ่ รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรม ในปี 63 มีรายได้จำนวน 308.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 (262.6 ล้านบาท) จำนวน 46.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18%
อย่างไรก็ตาม SPCG ยังคงมองหาโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายฐานธุรกิจ โดยได้ตั้งเป้าหมายในปี 2580 จะมีกำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 3,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะยังคงมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจโซลาร์ฟาร์มเป็นหลัก ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปี 2563 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีไม่ต่ำกว่า 5,500 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจด้านการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟ ปีนี้บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็น 50 เมกะวัตต์ โดยจะเน้นการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าในภาคโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก ภายใต้รูปแบบ Private PPA จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้งอยู่ที่ 35-40 เมกะวัตต์
ส่วนการดำเนินงานของ SPR ประมาณ 20 เมกะวัตต์ โดยจะเน้นกลุ่มบ้านที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และภายใต้บริษัท MSEK Power ที่เน้นกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือรวม 15-20 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 400 - 500 ล้านบาท
จ่ายปันผล 0.55 บาท
ดร.วันดี กล่าวอีกว่า ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลดำเนินงาน วันที่ 1 ม.ค. - 30 มิ.ย. 63 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท โดยบริษัทได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 25 ส.ค.63 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 4 ก.ย.63