หุ้น CPALL

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ต.ค.62 ปิดที่ 1,631.43 จุด ลดลง 1.37 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 55,373.65 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,655.04 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด AWC ปิด 6.55 บาท ลบ 0.25 บาท, GPSC ปิด 87.50 บาท บวก 0.50 บาท, CPALL ปิด 82.75 บาท บวก 0.50 บาท, GULF ปิด 174 บาท ลบ 1.50 บาท และ BGRIM ปิด 49.75 บาท ลบ 1.50 บาท

ตลาดแกว่งตัวผันผวนทั้งในแดนบวกและลบ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนรอติดตามความชัดเจนการโหวตร่างข้อตกลง Brexit และสถานการณ์สงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ในเชิงกลยุทธ์ ประเมินว่ามีโอกาสที่เม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นจะหมุนเปลี่ยนกลุ่ม (Sector Rotation) ระยะสั้น ด้วยการขายทำกำไรหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นไปมาก ในช่วงก่อนหน้านี้มาสู่หุ้น Laggard ที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าตลาดโดยรวม เช่นหุ้น CPALL บวกกับด้านเทคนิคส่งสัญญาณที่ดี จึงแนะ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น CPALL ที่แนวต้านบริเวณ 83.50-84 บาท

มีข่าว “ปรียนาถ สุนทรวาทะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชั้นนำของไทยออกมาแสดงความมั่นใจว่า หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของ BGRIM ที่จะเสนอขายมูลค่า 6 พันล้านบาท พร้อมส่วนสำรองเสนอขายอีกไม่เกิน 2 พันล้านบาท รวม 8 พันล้านบาท ให้แก่นักลงทุนทั่วไปวันที่ 19-21 พ.ย.นี้ จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยมีปัจจัยหนุน จากการเป็นหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ BBB+ และอันดับความน่าเชื่อถือองค์กรที่ระดับ A แนวโน้ม “คงที่” จากทริสเรตติ้ง

และกำหนดผลตอบแทนช่วง 5 ปีแรกอยู่ที่ 5% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่น่าพอใจ และการที่บริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับภาครัฐระยะยาวและมีรายได้ที่มั่นคง มีโอกาสเติบโตในอนาคตจากความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรฐานการบัญชีใหม่ TAS 32 ที่ส่งผลกระทบกับบริษัทที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนฯนั้น บริษัทได้คำนึงถึงผลกระทบจากการนำมาตรฐานการบัญชีใหม่มาใช้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น หุ้นกู้ด้อยสิทธิฯของ BGRIM ที่จะออกและเสนอขายครั้งนี้ จึงมีข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่จะจัดประเภทเป็นทุนทางบัญชีภายใต้มาตรฐานการบัญชีใหม่ได้ทั้งจำนวน!!

อินเด็กซ์ 51