โบรก มองหุ้นไทยผันผวนต่อ จับตากำไรแบงก์พาณิชย์ ไตรมาส 2 ลดลง และท่าทีเฟดขึ้นดอกเบี้ย ส่วนราคาทองคำ มีแนวโน้มขาลง จากประชุม จี 7 ตึงเครียด แนะนักลงทุนเน้นปิดทำกำไรเร็ว ลดความเสี่ยงค่าเงิน
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่าดัชนีตลาดหุ้นยังมีความผันผวนสูง แม้ยังมีหลายปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจประเทศไทยและภูมิภาคมีแนวโน้มขยายตัวดี จากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในช่วงไตรมาส 2/2561 ขยายตัว 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด โดยชะลอตัวลงจากระดับ 6.8% ในไตรมาส 1/2561 แต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ตลอดปีที่ระดับ 6.5%
ส่วนแนวทางการเลือกตั้งเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ตามโรดแม็ป ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 5 คนที่ สนช.เห็นชอบเตรียมประชุมนัดแรกวันที่ 31 ก.ค.นี้ เพื่อเลือกประธาน โดย กกต.ที่ยังขาดอีก 2 คน คาดชัดเจน ส.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบที่ส่งผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ อาทิ การประกาศผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 2/2561 ในสัปดาห์นี้ ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน เพราะคาดการณ์ว่ากำไรของแบงก์ใหญ่มีแนวโน้มลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า จากการยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิตอล ประกอบกับราคาน้ำมันที่ผันผวนสูงส่งผลต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ มุมมองของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และอัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปของเฟด ยังคงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม ทำให้เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งตามแผน และเป็นผลให้กระแสการไหลของเงินทุน ยังคงผันผวน โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิราว 5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ควรติดตามในวันที่ 18 ก.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และหุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวดครึ่งปี 2561 ภายในวันที่ 20 ก.ค.
ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด ประเมินว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวน โดยมองกรอบดัชนี 1,605-1,640 จุด ส่วนแนวทางการลงทุนทองคำ ซึ่งจากการเดินทางเยือนยุโรปเพื่อประชุม G7 และ NATO ของผู้นำสหรัฐฯ ไม่ถือว่าราบรื่นนัก ได้สร้างความไม่ลงรอยไปทั่ว ในขณะที่ภารกิจสุดท้ายที่จะพบกับผู้นำรัสเซียได้สร้างความกังวลให้กับตลาดการเงินจากความขัดแย้งกันในหลายๆ ด้าน ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้น แต่ถือเป็นผลดีสำหรับราคาทองคำซึ่งจะชะลอตัว โดยราคามีแนวโน้มเป็นขาลงมีโอกาสทดสอบระดับ 1,200 ดอลลาร์ จะทำให้ราคาในประเทศปรับตัวลดลงจนออกจากกรอบในปัจจุบันได้ ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนเน้นปิดทำกำไรเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องค่าเงิน.