ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,751.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 71,213.15 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,271.81 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 57.25 บาท บวก 0.75 บาท, PTTEP ปิด 147.50 บาท บวก 9 บาท, TRUE ปิด 6.80 บาท ลบ 0.50 บาท, CPALL ปิด 81.75 บาท ลบ 1.75 บาท และ PTTGC ปิด 96.50 บาท บวก 3.25 บาท
ข่าวดีที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการ V69LKSDII, คือการจับมือระหว่าง 2 ยักษ์ใหญ่ WHA-IRPC ทำนิคมอุตสาหกรรม โดยร่วมตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ มีทุนจดทะเบียน 650 ล้านบาท โดย WHA ถือหุ้น 60% และ IRPC ถือหุ้น 40% ทำนิคมอุตสาหกรรม ที่บ้านค่าย จ.ระยอง บนพื้นที่ 2,152 ไร่ คาดตั้งบริษัทเสร็จ
บล.เอเซีย พลัส มองว่า ดีลนี้ Win–Win ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยที่ดินกว่า 2 พันไร่ ของ IRPC ที่จะใช้ทำนิคมฯภายใต้บริษัท ร่วมทุน คาดว่า IRPC จะมีกำไร 50 ล้านบาท ในไตรมาส 2 หรือ 3 นี้
โดยนิคมฯร่วมทุน WHA-IRPC นี้ กำหนด IRR ราว 16% ตาม สัดส่วนการถือหุ้น 40% ไม่กระทบฐานะการเงิน IRPC การพัฒนาโครงการต้องใช้เวลา ถือเป็น upside แต่ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมในประมาณการ
ส่วน WHA จะมีที่ดินในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นเป็น 11,152 ไร่ จากปัจจุบัน 9,000 ไร่ คาดว่าจะนำมาพัฒนาเพื่อรองรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ พลังงานไฟฟ้า เพราะที่ดินในนิคมฯเหมราช ที่มาบตาพุดเหลือเพื่อขายไม่ถึง 100 ไร่
และเชื่อว่า WHA จะศึกษาความเป็นไปได้โครงการ และยื่นต่อ คณะกรรมการ EEC เพื่อขอยกระดับนิคมฯร่วมทุน WHA-IRPC เป็น เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ เพิ่มจากก่อนหน้าที่ได้รับอนุมัติมาแล้ว 9 โครงการ ซึ่งจะทำให้ราคาประเมินที่ดินสูงขึ้นในอนาคต
เมื่อประเมินมูลค่าส่วนเพิ่ม (NAV) ที่จะมีต่อ IRPC และ WHA ภายใต้สมมติฐานต้นทุนพัฒนาที่ดินไร่ละ 2 ล้านบาท และขายไร่ละ 4 ล้านบาท เริ่มขายปี 63 เป็นเวลา 5 ปี เฉลี่ยปีละ 430 ไร่ และกำหนดให้ราคาขายและต้นทุนพัฒนาเพิ่มขึ้นปีละ 5%
จะทำให้ได้ NAV ของ IRPC เพิ่มราว 0.06 บาทต่อหุ้น และ WHA เพิ่มราว 0.12 บาทต่อหุ้น หรือมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้น 0.87% และ 2.5% จากปัจจุบันให้ราคาเหมาะสมที่ 8.40 บาท และ 4.89 บาท ตามลำดับ!!
อินเด็กซ์ 51