ดัชนีความเชื่อมั่นนักเล่นหุ้นลดลง

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน เม.ย.61 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง 16.02% แต่ยังคงอยู่ในภาวะร้อนแรง (Bullish) เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยนักลงทุนให้น้ำหนักปัจจัยต่างประเทศ คือ นโยบายการเงินสหรัฐฯที่เพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดือนมีนาคม และเห็นว่ากดดันความเชื่อมั่นมากที่สุด ส่วนประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามคือ การค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ลุกลามจนถึงขั้นเรียกว่าสงครามการค้า และยังไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก แนะนำนักลงทุนระยะสั้นหรือนักเก็งกำไรในช่วงนี้มีโอกาสทำกำไรได้ไม่สูงมากนัก เฉลี่ยเพียง 2-5% ส่วนการลงทุนระยะยาวที่เน้นลงทุนผ่านกองทุนรวม ต้องมีการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มต่างๆ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือเป็นโอกาสของคนที่ถือเงินสด เพราะสามารถเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาปรับตัวลงต่ำได้

ด้านนายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ และกรรมการผู้อำนวยการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยในอีก 1 เดือนข้างหน้า ส่วนใหญ่ 64.71% ประเมินดัชนีในระยะสั้นยังไม่เปลี่ยนแปลงนัก และจะกลับขึ้นไปที่ค่าเฉลี่ย 1,792 จุด ในช่วงสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ขณะที่ ณ สิ้นปีนี้มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,879 จุด ซึ่งกรอบดัชนีหุ้นไทยปีนี้ค่าเฉลี่ยจะขึ้นไปสูงสุดที่ 1,909 จุด และเฉลี่ยต่ำสุด 1,703 จุด

นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์ องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยภาวะตลาดและตัวเลขการลงทุนที่สำคัญเดือน มี.ค.2561 ว่า ดัชนีตลาดปรับตัวลงเนื่องจากราคาหุ้นในหมวดพลังงานและสาธารณูปโภค และหมวดธนาคารซึ่งเป็นหมวดที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) สูง ปรับตัวลดลง 6.2% จากเดือนก่อน ขณะที่ในไตรมาส 1/2561 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของตลาดและตลาด mai อยู่ที่ 71,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% และเดือนมีนาคม ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 11,219 ล้านบาท.