ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 มี.ค.61 ปิดที่ 1,799.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 49,227.04 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 3255.37 ล้านบาท
หุ้นที่ซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 542 บาท บวก 6 บาท, BANPU ปิด 20.90 บาท ลบ 0.20 บาท, TRUE ปิดที่ 7.20 บาท บวก 0.05 บาท, EA ปิด 47.50 บาท ลบ 0.75 บาท และ SCC ปิด 504 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท
“ประกิต สิริวัฒนเกตุ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย เผยว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการณ์ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 1,914 จุด ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มขึ้นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวที่ดีจากการลงทุนภาครัฐที่ออกมามากขึ้น และการบริโภคของประชาชนกลับมาฟื้นตัว และความคาดหวังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 62 ทำให้ยังมีแรงหนุนตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวขึ้นได้
ส่วนกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดเฉลี่ยปีนี้ยังคงคาดไว้ที่ 111.7 บาท/หุ้น สูงกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ประมาณการ EPS ที่ 110 บาท/หุ้น โดยหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะทำกำไร ได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งเป็นมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
ส่วนปัจจัยภายนอกยังคงเป็นแรงหนุนมาจากสภาพคล่องของโลก ทำให้ต่างชาติยังคงเข้าซื้อในตลาดหุ้นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย
ขณะที่ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามและให้ความสำคัญ คือ การเลือกตั้งที่ปัจจุบันยังคงต้องรอคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ หลัง สนช.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความกฎหมายเลือกตั้ง ว่าด้วยการได้มาของสมาชิก ส.ว. และตีความร่าง พ.ร.ป.ส.ส. ที่จะส่งผลต่อกำหนดการเลือกตั้ง โดยในเดือน พ.ค.นี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องคำตัดสินของศาล
หุ้นแนะนำ คือหุ้นที่ได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ การลงทุนรอบใหม่ และการบริโภคในประเทศ เช่น BBL, KTB, PTTEP, CPN, HMPRO, STEC,AMATA และกลุ่มหุ้นที่จ่ายปันผลสูงไตรมาส 2 คือ TISCO-INTUCH
ปิดท้ายมีข่าวฝาก “เทรเชอริสต์” เว็บไซต์แนะนำการลงทุนในกองทุนรวมที่ช่วยจัดพอร์ตและคัดเลือกกองทุนด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เปิดตัวระบบแนะนำการลงทุนอัตโนมัติ เพียงแค่ Chat บน Line Platform ด้วยชื่อ @Treasurist เพิ่มช่องทางเข้าถึงบริการให้กับนักลงทุน สามารถทำแบบทดสอบความเสี่ยงผ่าน Line รู้ผลและเปิดบัญชีได้ทันที โดยไม่ต้องเข้าเว็บไซต์
ทั้งนี้ระบบแนะนำการลงทุนอัตโนมัติ มีแนวโน้มโตปีละ 38% คาดว่าปี 65 จะมีผู้ใช้งาน 122 ล้านคนทั่วโลก!!
อินเด็กซ์ 51