นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมให้บริษัทจำกัดดำเนินการได้ในประเด็นหุ้นกู้แปลงสภาพ การทยอยให้หุ้น (Vesting) สิทธิที่จะซื้อหุ้นในราคาที่กำหนด (ESOP) และหุ้นบุริมสิทธิ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 3 ลักษณะ 22 หุ้นส่วนบริษัทที่ปัจจุบันยังมีบทบัญญัติที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจและการเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยเฉพาะการเกิดของสตาร์ตอัพ ซึ่งปัจจุบันทำให้มีสตาร์ตอัพจำนวนมาก หันไปตั้งธุรกิจในสิงคโปร์แทน
สำหรับประเด็นสำคัญที่มีปัญหาและมีการแก้ไข เช่น กรณีที่ปัจจุบันไม่เปิดให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทจำกัดสามารถชำระเงินค่าหุ้นได้ โดยการหักหนี้ ทำให้ไม่ดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนเนื่องจากบริษัทไม่สามารถออกหุ้นกู้แปลงสภาพได้ หรือกรณีที่หุ้นบุริมสิทธิไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การบริหารจัดการในบริษัทไม่คล่องตัว นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่บริษัทออกหุ้นกู้ให้แก่ผู้บริหารหรือพนักงาน เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานหรือหุ้นอีสบ (ESOP/Vesting) ก็ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากกฎหมายไม่เปิดช่องให้ขายหุ้นให้แก่บุคคลภายนอกได้ทันที และไม่เปิดช่องให้บริษัทซื้อหุ้นคืนและถือหุ้นได้ ทำให้เมื่อพนักงานที่ได้รับหุ้นเป็นแรงจูงใจในการทำงาน เมื่อจะลาออกก็ไม่สามารถขายหุ้นคืนได้เนื่องจากบริษัทจำกัดไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ “การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการแข่งขันที่ต่างไปจากอดีต จะช่วยดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนในบริษัท จำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ตอัพ”.