มองหุ้น AOT!!

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 ส.ค. 60 ปิดที่ 1,578.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 34,679.12 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 935.7 ล้านบาท

หุ้นที่มีการซื้อขายสูงสุด SCB ปิด 143 บาท ลบ 2 บาท, SCC ปิด 496 บาท ลบ 2 บาท, AOT ปิด 53.25 บาท บวก 0.75 บาท, PTT ปิด 381 บาท บวก 1 บาท, ADVANC ปิด 188 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

AOT ยังบวกได้ต่อเนื่อง แม้มีการเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้โดยสารที่สนามบินทั้ง 6 แห่งในช่วง 6 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 8.15% อยู่ที่ 66.1 ล้านคน ชะลอตัวจากที่เติบโต 12.5% ในครึ่งปีแรกของปี 59 เป็นผลจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของรัฐและการปิดชั่วคราวของบางรันเวย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ ระดับการเติบโตนี้ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล

ขณะที่ บล.บัวหลวง ระบุ ราคาหุ้น AOT ที่ปรับตัวขึ้นมานับจากต้นปีจนถึงปัจจุบันได้สะท้อนปัจจัยเรื่องค่าเช่าพื้นที่ใหม่กับกรมธนารักษ์ที่น้อยกว่าที่ตลาดคาด ที่สำคัญคือการเปิดประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสนามบินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จะทำให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการกำไร และน่าจะหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้ต่อ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับระยะเวลาการลงทุนไปเป็นสิ้นเดือน ก.ย. 61 โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 60 บาท

เช่นเดียวกับ บล.ธนชาต ที่แนะนำ “ซื้อ” AOT ให้ราคาเป้าหมายเท่ากันที่ 60 บาท ส่วน บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สให้ราคาพื้นฐาน 55 บาทเท่ากับ บล.หยวนต้า (ประเทศไทยปิดท้าย มีข่าว “สันติ กีระนันทน์” รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) โรงไฟฟ้าชีวมวลกองแรกที่เข้าตลาด ซึ่งจะเริ่มซื้อขายวันแรก 7 ส.ค. นี้ โดย BRRGIF เป็นกองทุนที่ลงทุนในสิทธิรายได้สุทธิจากการประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าของบริษัทย่อยของ บมจ. น้ำตาลบุรีรัมย์ (BRR)

ขณะที่ “พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและการลงทุน บลจ. บัวหลวง เผยว่า BRRGIF เป็นกองที่จะทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปได้มีส่วนร่วมลงทุนในกิจการโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าชีวมวลของกลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ที่มีความมั่นคงด้านรายได้จากสัญญาการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงเชื่อว่า BRRGIF จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สร้างผลตอบแทนที่ดีจากเงินปันผลที่สม่ำเสมอ!!

อินเด็กซ์ 51