นายชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ได้มีการหารือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน เกี่ยวกับการแก้ปัญหาราคาผลปาล์มดิบตกต่ำ ซึ่งราคาลดลงจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่เคยอยู่ที่ 6 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ขณะที่มีต้นทุน 3 บาทต่อ กก. ปัจจุบันราคาผลปาล์มเฉลี่ยอยู่ที่ 4.84 บาทต่อ กก. แต่บางพื้นที่ลงไปต่ำมากเหลือ 3-4 บาท ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม 400,000 ราย บนพื้นที่ 6.3 ล้านไร่ และมีผลผลิต 18 ล้านตัน นำมาผลิตไบโอดีเซลราว 6 ล้านตันต่อปี สาเหตุที่ราคาปาล์มลดลงมาจากการรับซื้อไบโอดีเซลบี 100 ของผู้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซล (ผู้ค้ามาตรา 7 ตามกฎหมาย) ที่รับซื้อต่ำกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ที่ 35.29 บาทต่อลิตร โดยซื้อต่ำกว่าราคากลางประมาณลิตรละ 50 สตางค์ ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันประหยัดต้นทุนได้ 4,000 ล้านบาทต่อปี เท่ากับผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ได้กำไรเพิ่มขึ้น และเป็นส่วนสำคัญทำให้ราคารับซื้อปาล์มซึ่งเป็นผลผลิตต้นทางลดลง จึงขอให้แก้ไขในส่วนนี้ เพื่อทำให้ราคาปาล์มเพิ่มขึ้น
“ทั้ง 3 กระทรวงมีมติ ว่าผู้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซลต้องซื้อน้ำมันไบโอดีเซลบี 100 ตามราคากลางที่กำหนด โดยคาดว่าจะทำให้ราคาผลปาล์มดิบเพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ย 4.80 บาทต่อ กก. เป็น 5.30 บาท หากผู้ค้า ม.7 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง รัฐบาลจะพิจารณายกเลิกการชดเชยให้กับผู้ผลิตไบโอดีเซล จากปัจจุบันที่รัฐบาลชดเชยให้ 1.40 บาทต่อลิตร สำหรับน้ำมันดีเซล B7 หรือชดเชยให้ 20 บาทต่อลิตร สำหรับน้ำมันไบโอดีเซล B100”.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่