คลังไม่ชงต่ออายุลดภาษีดีเซล สกนช.เสนอ 3 มาตรการให้ กบน.รับมือราคาน้ำมันปรับเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลถึงแนวทางการดูแลราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของรัฐบาล ภายหลังจากที่มาตรการลดภาษีสรรพสามิตที่ 1 บาทต่อลิตร จะหมดอายุลงในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลังตอบคำถามผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าแนวทางการดูแลราคาน้ำมันให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงานไปหาแนวทางดูแลเรื่องนี้อยู่

ด้าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลกำลังหาแนวทางในการดูแลราคาอยู่ กำลังพิจารณา คงไม่ได้ปล่อยให้ราคาน้ำมันลอยตัวจนประชาชนได้รับผลกระทบ

ขณะที่นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม ครม.ในวันนี้กระทรวงการคลังไม่ได้มีการเสนอวาระการขอต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งราคาน้ำมันยังคงตัวอยู่ในระดับสูง และยังมีปัจจัยต่างๆที่จะส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันได้ โดยเฉพาะความไม่สงบในประเทศตะวันออกกลางกรณีอิหร่าน-อิสราเอลที่อาจปะทุขึ้นอีก ประกอบกับมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาท/ลิตร กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 19 เม.ย.ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล

ดังนั้น สกนช.จึงเห็นว่าเพื่อไม่ให้มาตรการลดภาษีที่สิ้นสุดลงกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลมากนัก จึงจะเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเข้ามาช่วยดูเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนมากจนเกินไปและไม่ให้ราคามีการเปลี่ยนแปลงมากจนเกินไป โดย กบน.จะพิจารณาอัตราการอุดหนุนหรือลดการชดเชยให้เป็นไปตามช่วงเวลาและจังหวะที่เหมาะสม จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันภายในประเทศไม่ให้ผันผวนมากจนเกินไป

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมาติดลบ 103,620 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 56,407 ล้านบาท บัญชีก๊าซหุงต้มติดลบ 47,213 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในการประชุม กบน. วันที่ 19 เม.ย.นี้ ทาง สกนช.จะเสนอให้ที่ประชุม กบน.พิจารณา 3 มาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล หลังจากที่กระทรวงการคลังไม่ยอมต่ออายุการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร ที่สิ้นสุดมาตรการในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ประกอบด้วย

1.สกนช.จะยืนยันต่อที่ประชุม กบน.ว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันไม่มีเงินเหลือที่จะมาช่วยเหลืออุดหนุนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้กับประชาชนอีกต่อไปแล้ว จึงเห็นควรให้ปรับขึ้นราคาทันที 1 บาทต่อลิตรเท่ากับการหายไปของการยกเลิกลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็นลิตรละ 31.44 บาทต่อลิตร จากปัจจุบัน 30.44 บาทต่อลิตร

2. กองทุนน้ำมันยังมีความต้องการช่วยเหลือประชาชนหลังจากมาตรการลดภาษีดังกล่าวที่หายไปโดยอาจเสนอให้ขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเพียง 50 สตางค์ (สต.) ต่อลิตร และให้ปรับขึ้นไปเพียง 50 สต.ต่อลิตร ต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะช่วยเหลือกรณีดังกล่าวได้นานอีกกี่วัน เพราะขณะนี้เงินกองทุนน้ำมันที่กู้มาก่อนหน้านี้ใกล้จะหมดลงแล้ว

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้กองทุนน้ำมันได้กู้เงินมาจากสถาบันการเงิน 100,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล จากกรอบวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจาก ครม. รวม 150,000 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่กู้มาเพียง 100,000 ล้านบาทเนื่องจากประเมินว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะสามารถรับมือกับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลได้ และขณะนี้ไม่สามารถขอกู้เพิ่มได้อีกจากที่มีวงเงินเหลือ 50,000 ล้านบาท เพราะกรอบการอนุมัติกู้เงินกำหนดว่าต้องกู้ให้แล้วเสร็จเต็มวงเงินภายในเดือน ต.ค.2566

และ 3.กองทุนน้ำมันจะเสนอให้ กบน.รับทราบว่าจะยังไม่ต้องมีการขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลอีก 1 บาทต่อลิตร แม้ว่ามาตรการการลดภาษีน้ำมันจะสิ้นสุดลง โดยจะเสนอให้ กบน.นำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับ ครม.ว่าจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้จากมาตรการใดๆนอกเหนือจากนี้อีกหรือไม่.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่